i'm far :)

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ



พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ นั้นเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณผู้หญิงอย่างเราและคนรักผิวสวยต้องควรรู้อย่างยิ่งค่ะ และวันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็มีเรื่อง พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ มาฝากเป็นความรู้ให้กับคุณผู้หญิงกันอีกเช่นเคยค่ะ นอกจากผิวพรรณที่สวย สดใส แล้วเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) เชื่อว่า คุณผู้หญิงหลายท่านคงจะอยากให้ผิวของคุณมีออร่ากับเค้าด้วยเหมือนกันใช่ไหมล่ะค่ะ พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญทีเดียวที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีผิวสวยสุขภาพดีให้กับคุณได้ ฉะนั้นตามเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) มาดูเรื่อง พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ กันเลยดีกว่าค่ะ

หากเราไม่สามารถดูแลผิวพรรณด้วยหลักการขั้นพื้นฐานได้เป็นประจำการทำทรีทเม้นท์เพื่อชะลอวัยผิวก็จะไม่เป็นผล นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ริ้วรอยทั้งหลายที่ปรากฏบนใบหน้าส่วนใหญ่เป็นผลพวงจากปัจจัยภายนอกร่างกายมากกว่าเกิดจากการแก่ชราของร่างกายตามอายุที่มากขึ้น ดังนั้นวิธีเริ่มต้นดูแลผิวพรรณที่ง่ายที่สุด ถูกที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังทั่วร่างกายถูกทำลายไม่ว่าจะโดยปัจจัยใดๆ ก็ตาม มิฉะนั้นแล้วครีมบำรุงผิวและอาหารเสริมทั้งหลายที่ใช้ก็จะไม่เกิดประโยชน์ 

การที่ผิวหนังถูกทำลายโดยปัจจัยต่างๆ บางครั้งเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น เพราะอาจไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ หรืออาจไม่มีอาการระคายเคืองหรืออักเสบด้วยซ้ำไป แต่อาจเป็นการสะสมความเสียหายไว้ทีละน้อยในระดับที่เราไม่ทันได้สังเกตเห็นและจะเห็นได้เมื่อผิวหนังสะสมความเสียหายมากถึงระดับที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคือ ความเสื่อมโทรมอย่างชัดเจน เช่น ริ้วรอยเหี่ยวย่น เมื่อถึงเวลานั้น ก็แก้ไขยากแล้ว





3 พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ

1. รังสียูวีจากแสงอาทิตย์

มีผลโดยตรงทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง เราจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าถึงบ่าย 2 โมง ซึ่งเป็นช่วงที่แสงอาทิตย์จะแผ่รังสียูวีทั้งเอและบีสูงที่สุด ครีมกันแดดที่มีสารป้องกันรังสีทั้งสองชนิดจะดีที่สุด นอกจากนั้นควรจะสวมเสื้อผ้าที่สามารถปกป้องผิวหนังได้เป็นดีที่สุด

2. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรง

เช่น สารทำความสะอาดที่เป็นองค์ประกอบของน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างรถ รวมทั้งน้ำยาสระผม สบู่เหลวล้างหน้า-อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีสารทำความสะอาดที่ให้ฟองมากมาย สารทำความสะอาดชนิดนี้มักจะเกาะติดผิวหนังและสะสมบนผิวหนัง เพราะล้างออกยาก เนื่องจากมีประจุไฟฟ้าเป็นลบ จึงเกาะติดกับผิวหนังได้ง่ายและหลุดออกยาก เมื่อสะสมมากๆ เข้า จะทำให้ผิวหนังหยาบ แห้งกร้าน สังเกตได้ชัดเจนจากแม่บ้านหรือผู้ที่ต้องซักผ้าหรือล้างจานจำนวนมากเป็นประจำ ผิวหนังที่มือจะระคายเคือง อักเสบ และเหี่ยวย่น

3. คลอรีนและน้ำอุ่น

การอาบน้ำอุ่น ช่วยให้ร่างกายตื่นและสดชื่นอย่างรวดเร็ว แต่ความร้อนของน้ำ ยิ่งร้อนก็จะยิ่งทวีความรุนแรงในการทำลายเซลล์ผิวหนังให้มากขึ้น แม้ว่ากล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย แต่ความร้อนจะเร่งการเผาผลาญและเร่งปฏิกิริยาของอนุมูลอิสระให้เกิดมากขึ้นและเร็วขึ้น เช่นเดียวกับน้ำคลอรีน ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบการอาบน้ำอุ่น อาจจะลดจำนวนครั้งในการอาบน้ำอุ่นให้ลดน้อยลงในแต่ละสัปดาห์ เพื่อยืดอายุผิวพรรณให้สวยยาวนาน


Credit :  http://www.n3k.in.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น