i'm far :)

วันพุธที่ 23 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

เปลี่ยนผิวให้เนียนนุ่มภายใน 5 นาที


ผู้หญิงทุกคนอยากให้ผิวเรียบเนียนอ่อนนุ่ม แต่ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนที่รู้จักวิธีการนั้น การมีผิวที่เรียบเนียนนั้นช่วย เพิ่มความน่ารักชวนมองและกระตุ้นความรู้สึกมั่นใจเป็นอย่างมาก ไม่น่าแปลกใจที่ผู้หญิงทุกคนต้องการมัน การนวดสปาส่วนใหญ่มีการให้บริการเพื่อผิวนุ่มขึ้นโดยอาศัยหลักการง่ายคือการชโลมผิวของคุณเพื่อรักษาความชื้นนั่นเอง แต่เอ้... เราจะเอาอะไรมาชโลมผิวล่ะ?ก็ช็อคโกแลตสิคือคำตอบสาวๆต่างประเทศเป็นจำ นวนไม่น้อยที่ใช้ช็อคโกแลตในการถนอมผิวนั่นเพราะว่าในช็อคโกแลตนั้นมีไขมันที่สามารถช่วยในการ
ถนอม ผิวได้ไม่ต่างกับโลชั่นแพงๆแต่อย่างใด แต่ไม่ต้องถึงขั้นเอาช็อคโกแลตมาทาผิวโดยตรง แต่จะผสมลงในโลชั้นถนอมผิวเพื่อให้ช็อคโกแลตและโลชั่นทำงานร่วมกัน

แต่หากคุณคิดว่าวิธีนี้มันยากเกินไปสำหรับคุณยังมีอีกวิธีนึงที่สามารถช่วยให้มีผิวนุ่มเนียนเหมือนกันสิ่งที่คุณ ต้องทำทุกวันก็คือ ขั้นแรกให้อาบน้ำอุ่น เพราะอะไรรู้มั้ย ความร้อนจากการอาบน้ำไม่เพียงแต่ช่วยให้ร่างกายของคุณผ่อนคลายและบรรเทากล้ามเนื้อของคุณอย่างเดียวแต่จะเปิดรูขุมขนของผิวหนังทั่วร่างกายของคุณให้กว้างขึ้น เมื่ออาบเสร็จแล้วให้เช็ดตัวให้หมาดๆแต่อย่าใช้เวลาเช็ดตัวนานมาก จากนั้นให้ทาน้ำมัน baby oil ให้ทั่วผิวที่คุณต้องการน้ำมันจะซึมเข้าไปดูแลผิวหนังอย่างรวดเร็วเพราะว่ารูขุมขนกำลังเปิดกว้างด้วยความร้อนจากน้ำอุ่นในตอนแรกจากนั้นลองปล่อยผิวให้แห้งเองโดยไม่ต้องเช็ดตัวอีกคุณก็จะพบว่าผิวของคุณเนียนนุ่มอย่างเหลือเชื่อเลยล่ะ

 

อยากให้ขาเรียวยาว ควรใส่กระโปรงทรงใด


ถ้าอยากให้ช่วงขาดูเรียวยาวขึ้น ควรใส่กระโปรงทรงใด ความยาวขนาดไหนที่จะช่วยให้ขาดูยาวสวยได้พอ ดีคะ


      ทรงที่จะช่วยให้ดูสูงควรเป็นทรงกระสอบ หรือทรงดินสอ คือพอดีตั้งแต่เอวลงไปถึงกลางน่อง จะช่วยเพิ่ม ความยาวของตัว ให้แลดูสูงเพรียว หากเพิ่มกระดุมเป็นทางด้านหน้า หรือเน้นด้วยแถบผ้าที่เป็นลายตรงหรือ ลายผ้่าที่เป็นริ้วลง ก็จะยิ่งช่วยให้แลดูสูงขึ้น สีของกระโปรง ควรเป็นสีเข้มเพื่อช่วยลดขนาด


      สิ่งต้องห้าม คือ กระโปรงบาน กระโปรงจีบต่างๆ เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ดูสูงแล้ว ยังทำให้แลดูอ้วนอีก ด้วย

Credit  :  www.womenthaiza.com

เกลือ รักษาความงาม

1. ลดรอยช้ำรอบดวงตา ด้วยวิธีง่ายๆ
โดยผสมเกลือ 1 ช้อนชาในน้ำร้อน 1/2 ถ้วย ใช้ผ้าหรือสำลีชุบน้ำเกลือ ปิดตาไว้สัก 5-10 นาที รอยช้ำรอบดวงตาจะค่อยๆ จางลง
2. ลดความมันบนใบหน้า
โดยเริ่มจากใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำร้อนพอหมาดมาอังปิดหน้า ไว้สัก 3-5 นาที เพื่อช่วยเปิดรูขุมขนก่อน แล้วจึงค่อยใช้เกลือ 1 ช้อนชา ผสมน้ำ ใส่ขวดสเปรย์ฉีดพ่นน้ำผสมเกลือให้ทั่วใบหน้า จากนั้นก็ใช้ผ้าขนหนูเช็ดหน้าให้แห้ง
3. เพิ่มความชุ่มชื่นให้ผิวพรรณ
โดยใช้เกลือ 1/2 ถ้วยผสมลงในอ่างอาบน้ำ แช่ตัวประมาณ 15-20 นาที จากนั้นเช็ดตัวให้แห้ง แล้วทาโลชั่นให้ทั่วร่างกาย เกลือจะช่วยให้ผิวชุ่มชื้นยิ่งขึ้น
4. ขัดผิวให้สวยใส
โดยใช้เกลือผงถูตัว แล้วใช้ฟองน้ำหรือผ้าขนหนูขัดตัวให้ทั่วจะช่วยให้เซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วหลุดออกมา ขณะเดียวกันก็กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในร่างกายด้ วย
5. ผ่อนคลายอาการเมื่อยล้าที่เท้า
โดยผสมเกลือประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะลงในน้ำอุ่น แล้วแช่เท้าทั้งสองข้าง ช่วยให้รู้สึกคลายความเมื่อยล้าได้

Credit :  http://www.fwdder.com/topic/19046

หัดติดขนตาปลอมให้สวยเด้งเป็นธรรมชาติ


 คุณผู้หญิงท่านไหนที่มีขนตาน้อย ไม่หนาดกเด้ง คงจะมีตัวเลือกช่วยทำให้ขนตาหนา เด้งสวยได้ด้วยการติดขนตาปลอมใช่ไหมละคะ แต่จะติดขนตาปลอมอย่างไรให้สวยเด้งเป็นธรรมชาตินั้น  เรามีเทคนิคดีๆ ในการติดขนตาปลอมมาสำหรับมือใหม่หัดติด คิดจะสวยมาบอกต่อกันค่ะ

       1. เลือกขนตาปลอมให้เหมาะ
ถ้าคุณผู้หญิงเป็นมือใหม่หัดติด ขอแนะนำให้ใช้ขนตาปลอมแบบที่เป็นแถบ ซึ่งจะใช้ง่ายกว่าแบบที่เป็นช่อเล็ก ๆ ไว้สำหรับแซม แบบติดทีเดียวอยู่เลยทั้งแถบไม่ต้องมาคอยนั่งติดทีละนิดๆ เพราะจะทำให้เสียเวลาแถมขั้นตอนนั้นการติดนั้นก็ยุ่งยากมากกว่ากันเยอะทีเดียว

        2. ไม่ควรเลือกขนตาปลอมที่เป็นแพหนาจนเกินไป
ควรเลือกขนตาปลอมแบบที่มีแหว่ง ๆ เว้า ๆ แซมอยุ่บ้าง เพราะตอนติดขนตาปลอมนั้น ขนตาจริง ของคุณผู้หญิงก็จะแทรกเข้ามาอยู่ในขนตาปลอมด้วย ถ้าตินขนตาปลอมแบบหนาก็จะยิ่งทำให้ขนตาที่ติดออกมาแล้วดูหนา ดูเยอะไป ซึ่งจะทำให้ขาดความเป็นธรรมชาติอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ

        3. ลองเลือกใช้กาวติดขนตาสีเข้มดู
เพราะเมื่อกาวติดขนตาปลอมแห้งแล้วก็กลายเป็นสีดำซึ่งจะกลมกลืนกับอายไลเนอร์ที่คุณผู้หญิงใช้ ซึ่งจะเป็นการช่วยปกปิดรอยต่อไปในตัว ทำให้การติดขนานั้นดูเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

        4. ขั้นตอนสุดท้ายเมื่อติดขนตาปลอมเสร็จ
ซึ่งเน้นย้ำว่าควรทำคือ ควรดัดขนตาจริงของุณด้วยเพื่อไม่ทำให้ขนตาจริงตก และ ทำให้ขนตาจริงและปลอมดูกลมกลืนไปด้วยกันนั่นเองค่ะ
Credit :  www.ladyvisa.com

สัปปะรดช่วยขัดผิวสวย


เรื่องข้อศอกดำ หัวเข่าด้านนั้น เป็นปัญหาที่ทำเอาบรดาคุณผู้หญิงที่อยากจะหันมาใส่สายเดี่ยว กระโปรงสั้นต้องกุมขมับคิดหนักไปตามๆ กัน ถึงแม้หน้าตาดูจะสวยหน้าตาน่าดูเพียงใด แต่ถ้าศอกดำ เข่าด้าน ก็อาจจะทำใหคุณสวยแบบไม่ถึงที่สุดได้เพราะมีริ้วรอยดำ รอยด้านติดอยู่ตามแขนขาแถมยังสังเกตได้ง่ายๆ อยู่อย่างนี้ แต่ไม่ต้องกังวลไป เพราะวีซ่ามีวิธีแก้ปัญหาด้วยการใช้สับปะรดเข้าช่วยมาบอกกันค่ะ

สับปะรดช่วยคุณผู้หญิงกำจัดรอยด่างดำ รอยด้าน ตามหัวเข่าและข้อศอกได้โดยมีวิธีต่อไปนี้ค่ะ

1. นำเอาสับปะรด 1/4 ผล ไปสับให้ละเอียด จากนั้นนำไปเย็นให้เย็นฉ่ำ

2. เมื่อถึงเวลาอาบน้ำ ก็ให้นำสับปะรดที่เย็นไว้เตรียมเข้าไปด้วย เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ให้คุณผู้หญิงหยิบสับประรดที่เตรียมไว้ มาขัดแขน ขา ข้อศอก หัวเข่า หรือบริเวณด่างดำที่ต้องการได้ตามใจเลยค่ะ

3. ขัดๆ ถูๆ ทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด เช็ดให้แห้ง สิ่งที่ควรทำหลังจากนี้ก็คือ ให้ทาครีมบำรุงตามจุดด่างดำต่างๆ ควบคู่ไปด้วย อย่าให้ผิวแห้ง หยาบกร้าน เพราะจะยิ่งทำให้ไม่น่าดูไปใหญ่

การขัดจุดด่างดำด้วยสับปะรดสามารถทำได้บ่อยๆ แต่ก็ไม่ควรเกินวันเว้นวันนะคะ ทำวิธีนี้แล้ว รับรองได้ว่า ผิวของคุณผู้หญิงจะเนียนนุ่ม ไม่มีปัญหาศอกดำหัว หัวเข่าด้านให้คุณผู้หญิงต้องกังวลใจอีกต่อไป…

Credit : www.ladyvisa.com

7 เคล็ดลับเลิกกินมื้อดึก


กลางคืนดึก เกิดท้องร้องจ๊อกๆ ขึ้นมาสิ่งที่คุณผู้หญิงทั้งหลายทำก็คือ ย่องไปเปิดตู้เย็น หรือหาของกินที่มีในบ้านเพื่อประทังความหิว  เมื่อท้องอิ่มแล้วก็เข้านอนได้อย่างสบายใจ แต่รู้ไม่ค่ะ ถ้าทำแบบนี้บ่อยๆ รับรองหุ่นสวยๆ ที่มีอยู่ จะกลายเป็นหุ่นย้อยๆ ที่มีไขมันสะสมตามร่างกายอีกเพียบ

นอกจากนี้ความเคยชินกับการทานมื้อดึกนั้น จะทำให้คุณผู้หญิงน้ำหนักพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วทีเดียว และยังทำให้คุณผู้หญิงเข้านอนดึกมากขึ้น เนื่องจากต้องรอให้หายอิ่มสักพักก่อน  ซึ่งเป็นการทำร้านสุขภาพทางอ้อมอีกต่างหาก งานี้มีแต่เสียกับเสีย ดังนั้นไม่ควรปล่อยให้เป็นพฤติกรรมที่เคยชินอีกต่อไป ลองมาดูเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกันดู มาดูกันสิว่าจะต้องทำอย่างไรกันบ้างเพื่อลึกพฤติการกินมื้อดึกเหล่านี้ไป…

1. รับประทานอาหารในปริมาณที่สมดุลและเพียงพอในแต่ละวันแล้วตามด้วยการออกกำลังกาย

หากคุณผู้หญิงมีพฤติกรรมชอบหาของว่างทานก่อนเข้านอนนั้น  เนื่องจากในวันหนึ่งๆ คุณอาจทานอหารไม่เพียงพอ ขอแนะให้ปรับพฤติกรรมซะใหม่   ด้วยการทานมื้อเช้าของทุกๆ วันเสมอ  ดังนั้นไม่ควรมองข้าม มื้อต่อ ๆไป ให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่มันเยิ้ม ไม่ทานรสจัด  และหลังเลิกงาน ก้หาเวลาออกกำลังกายออกไปวิ่ง หรือทำงานบ้านอยู่บ้าน ซัก 15 – 30 นาที เป็นอย่างน้อย  รับรองได้ว่าคืนนั้นคุณจะนอนหลับสบายอย่างแน่นอน

2. เก็บแต่อาหารที่มีประโยชน์ในตู้เย็น

เน้นเก็บอาหารที่มีประโยชน์  ไม่ทำให้อ้วนง่าย  เผื่อในกรณีที่คุณผู้หญิงต้องนอนดึกจริงๆ  ก้อาจหยิบเอาอาหารเบาๆ มาทาน พวกผลไม้หรือโยเกิร์ตเป็นต้น  ส่วนอาหารที่คุณผู้หญิงที่คสรมีติดตู้เย็น ก็อย่างเช่น พวก ปลา  ผัก นม โยเกิร์ต ผลไม้ ซึางมีประโยชน์ต่อร่างกายทั้งนั้น เลี่ยงการซื้อขนม ของวางคบเคี้ยวหรือ ช็อกโกแลตติดตู้เย็นซะที

3.  ดื่มน้ำให้เยอะๆ

การดื่มน้ำเยอะจะเป็นอีกทานช่วยหนึ่งให้คุณไม่หิวง่าย  แต่ไม่ควรดื่มน้ำแทนการแทนอาหารนะคะ

4. ทำป้ายหยุดกิน หรือ เขียนข้อความให้กำลังใจ หรือกระตุ้น ตัวเองในการลดน้ำหนัก

เช่น “งดมื้อดึก”  หรือ  “ไม่กินหลัง 18.00น.”  เพื่อที่คุณผู้หญิงจะได้สังเกตุแล้วชะงักเวลาที่คุณจะหาอะไรเข้าปากตอนดึกๆ บ้าง

5. หลังทานมื้อเย็นแปรงฟันกันไว้

คุณผู้หญิงหลายคนใช้เทคนิคนี้ ในการพยายามไม่ทานมื้อดึกเนื่องจาก ขี้เกียวไปแปรงฟันอีกรอบ เทคนิคนี้จึงได้ผลไม่น้อย

6. หาอะไรทำที่จะทำให้คุณลืมเรื่องหิวๆ ไปได้

เช่นทำงานศิลปะ โทรคุยโทรศัพท์กะเพื่อน  อาบน้ำอุ่นๆ  ส่วน การอ่านหนังสือ เล่นเกมดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะมีผลการวิจัยออกมาว่า การทำกิจกรรมเหล่านี้จะทำให้กระตุ้นความยากอาหารให้เกิดขึ้นได้ เนื่องจากอาจเห็นภาพตามอินเตอร์เน็ตหรือตามโฆษณาในโทรทัศน์เป็นต้น  แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า ห้าม เล่นเกมดูทีวี เล่นอินเตอร์เน็ต นะคะ

7. เข้านอนให้ไว

ข้อนี้สำคัญที่สุด เพราะการเข้านอนไวคุณผู้หญิงก็คงไม่เกิดอาการหิวต้องหาอะไรทานตอนดึกๆ อน่างแน่นอน

Credit :  http://www.ladyvisa.com

วันพุธที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

วิธีดูแลเส้นผมในหน้าร้อน

อย่าปล่อยให้ผมโดนแดดบ่อยๆ



สิ่งคุณผู้หญิงต้องควรระวังในช่วงหน้าร้อนคือ อย่าปล่อยให้เส้นผมโดนแดดจัดๆ โดย พยายามเลี่ยงแสงแดดจัด ๆ ในช่วงสิบโมงเช้าถึงบ่ายสองโมงเอาไว้ เพราะเป็นช่วงเวลาที่ในแสงแดดนั้นมีทรังสียูวีทำลายล้างรุนแรงที่สุด หรือหากถ้าคุณผู้หญิงถ้าจำเป็นต้องออกไปกลางแดดในช่วงนั้นจริง ๆ ก็ควรสวมหมวกหรือโพกผ้าเพื่อปกป้องเส้นผม หรือกางร่มเพื่อปกป้องผมจากแสงแดด

หมั่นไปเล็มผมสม่ำเสมอ

ผมแตกปลายมักจะเกิดขึ้นบ่อย ๆ ในช่วงหน้าร้อน คุณผู้หญิงจึงควรป้องกัน ผมแตกปลายด้วยการไปเล็มผมเป็นประจำทุก 6-8 สัปดาห์ นอกจากนี้ และนอกจากนั้นก็ควรหาน้ำมันมะกอกหรือน้ำมันโจโจบาติดบ้านไว้ด้วย วันหยุดว่างๆ ให้นำมาใช้ทาบริเวณปลายผมเพื่อช่วยให้เส้นผมดูนุ่มขึ้น และนอกจากนี้ยังช่วยกำราบผมชี้ฟูได้อีกด้วย นอกจากนี้ คุณผู้หญิงยังสามารถนำมาใช้ชโลมให้ทั่วศรีษะ ก่อนสระผม เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นผมแห้งจากการสระผมบ่อย ๆ

ควรเลือกผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมให้ดี

ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมสำหรับหน้าร้นนั้น ให้หันมาเลือกผลิตภัณฑ์เส้นผมที่มีส่วนผสมของสารกันแดดช่วยป้องกันหนังศีรษะไหม้และยังช่วยป้องกันรังสียูวีไม่ให้มาทำร้ายเส้นผมของคุณได้อักด้วย เนื่องจากผลิตภัณฑ์พวกนี้มักอุดมไปด้วยสารที่ให้ความชุ่มชื้น ซึ่งจะช่วยให้เส้นผมดูมีสุขภาพดีและเป็นเงางาม แต่คุณควรระมัดระวังในการใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความเงางามในการควบคุมเส้นผมชี้ฟูไว้ให้ดี เพราะผลิตภัณฑ์พวกนี้มักมีส่วนผสมของซิลิโคน ที่จะจับตัวอยู่บนเส้นผมหลังจากใช้ไปแค่หนสองหนได้ ซึ่งนั่นจะทำให้ผมแห้งเสียดูเลวร้ายไปใหญ่ในระยะยาว นอกจากนี้ ก็ควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์แต่งผมที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์หรือสารเคมีอื่น ๆ เพราะจะยิ่งทำให้เส้นผมแห้งเสียมากขึ้นได้ ทางที่ดีควรเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาาติล้วน ๆ ดีกว่าค่ะ ซึ่งจะมีความอ่อนโยนต่อเส้นผมมากกว่า

บำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก

หมั่นบำรุงเส้นผมด้วยคอนดิชั่นเนอร์ช่วยป้องกันเส้นผมพันกันและช่วยปรัปสภาพเส้นผมชี้ฟูให้เรียบอยู่ตัวขึ้น

นอกจากนี้ คุณผู้หญิงควรหมักผมด้วยคอนดิชันเนอร์แบบล้ำลึกสัปดาห์ละครั้ง เพื่อช่วยเยียวยาเส้นผมแห้งเสียจากแสงแดด ถ้าคุณมีผมแห้งเสียมาก ๆ และอยากปรับสภาพให้ดูนุ่มสลวยได้ดีเป็นพิเศษละก็ ลองทาคอนดิชันเนอร์แบบล้ำลึกลงบนเส้นผมที่เปียกหมาด ๆ หรือในขณะที่เส้นผมแห้งแล้วก็ได้ จากนั้นใช้พลาสติกสำหรับห่ออาหารพันเส้นผมของคุณผู้หญิงไว้สักครู่ดู

เลี่ยงการแต่งผมด้วยความร้อน

พยายามเลี่ยงการใช้อุปกรณ์แต่งผมด้วยความร้อน (ไม่ว่าจะไดร์เป่าผม คีมรีดผม หรือคีมดัดผม) ก็ควรหาเวลาให้เส้นผมของคุณผู้หญิงนั้นได้พักซะบ้าง ปล่อยให้เส้นผมแห้งเองตามธรรมชาติหรือหันมาเพิ่มคลื่นลอนให้เส้นผม ด้วยการถักผมเปียกตอนที่ผมเปียกหมาด ๆ แล้วปล่อยไว้จนแห้งเอง เมื่อแกะเปียออกคุณผู้หญิงก็จะได้คลื่นผมที่ดูสวยไม่ซ้ำใคร แต่ถ้าคุณขาดไดร์เป่าผมไม่ได้จริง ๆ ก็ควรใช้คอนดิชัเนอร์แบบไม่ต้องล้างออกควบคู่การทำผมไปด้วย หรืออาจใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องเส้นผมจากความร้อนก่อนไดร์ผมทุกครั้ง และควรใช้ความร้อนต่ำสุด เพื่อเป็นการถนอมเส้นผมค่ะ

ขอบคุณภาพจาก : onelikes.com
บทความโดย : Ladyvisa.com
ที่มา http://www.ladyvisa.com

7 วิธีกินผักแบบไม่ขาดสารอาหาร รับเทศกาลเจ

เดี๋ยวนี้หนุ่มสาวสมัยใหม่หันมาใส่ใจกับเทศกาลกินเจ แน่นอนว่านอกจากจะได้ชำระล้างจิตใจ อิ่มบุญอิ่มกุศลที่ไม่ต้องเบียดเบียนสัตว์แล้ว ก็ยังถือเป็นทางออกของคนรักสุขภาพด้วย เมื่อคนหันมาตื่นตัวกับกระแสการกินเจ ก็ทำให้ร้านอาหารเจพลอยคึกคักตามไปด้วย สารพัดอาหารเจปรุงสำเร็จก็มีทั้งแบบดั้งเดิมและแบบโปรตีนจากถั่วเหลืองแปรรูป แม้สะดวกสบายแต่หลายคนก็มองว่าการนำโปรตีนเกษตรมาแปรรูปเป็นเนื้อสัตว์นั้นดูจะไม่เหมาะสม เพราะไม่ช่วยลดละกิเลสในการอยากทานเนื้อสัตว์ ขณะที่ผู้ผลิตก็แย้งว่า เป็นเพียง "ทางเลือก" ให้ผู้บริโภคที่เพิ่งหันมาทดลองทานเจตามเทศกาล นานๆ ทานที ก็ว่ากันไป เมื่อต้องถือศีลกินเจ ผลที่ตามมาส่วนใหญ่คือร่างกายขาดสารอาหาร ซึ่งไม่ได้แปลว่าเป็นโรคขาดอาหาร แต่สารอาหาร 5 หมู่ที่เคยได้รับเป็นประจำทุกวันทุกวันก็จะลดน้อยตามไปด้วย ซึ่งก็อาจจะมีผลต่อการเจริญเติบโต หรือการซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ในบางท่านที่ร่างกายอ่อนแอเพราะขาดสารอาหารเป็นทุนอยู่แล้ว การปฏิบัติตนในช่วงเทศกาลกินเจก็อาจส่งผลให้อ่อนเพลียง่ายตามมาด้วย แล้วเราควรจะกินอะำไร และกินอย่างไร ให้ร่างกายสดชื่นแจ่มใส ได้รับสารอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างเพียงพอในช่วงกินเจ 1. ปรุงเอง ทานเอง เพราะเราไม่รู้ว่าอาหารเจสำเร็จรูปที่วางขายตามท้องตลาดหรือแม้แต่ยามที่สั่งทานจากร้านอาหารเจนั้นจะมั่นใจในคุณภาพวัตถุดิบ สารอาหาร และความสะอาดได้แค่ไหน การปรุงเองนอกจากจะเลือกสรรวัตถุดิบได้อย่างที่ร่างกายต้องการและได้ืทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ๆ แล้ว ยังปลอดภัยจากสารปนเปื้อนที่เราอาจไม่รู้ตัวขณะตักเข้าปากจากการทานอาหารเจสำเร็จรูปด้วย 2. ผัก-ผลไม้ ยิ่งสดใหม่ ยิ่งดีกับร่างกายคุณ ต้มจับฉ่ายหลายหม้ออาจเป็นหนึ่งในเมนูดั้งเดิมตามธรรมเนียมการกินเจ ยิ่งอุ่นบ่อย ...

ืที่มา http://www.samunpri.com/beauty/

ไข่ มะนาว ขิง น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก ช่วยได้

การสร้างเสน่ห์ให้กับตนเองด้วยการดูแลรักษาร่างกายให้สะอาด ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับคนที่รักสวยรักงาม วันนี้ Tips สุขภาพ กับ สสส. มีวิธีดูแลผม เสน่ห์อีกอย่างที่ไม่ควรมองข้ามมาฝากกันคะ



เริ่มต้นที่คนที่มีปัญหาเรื่องผมแห้ง ซึ่งคนที่มีผมแห้งมักจะมีปัญหาเรื่องการหวีจัดทรงยาก ผมไม่มีสปริงไม่มีน้ำหนักขาดชีวิตชีวา ทำให้หนังศีรษะแห้งและเกิดสะเก็ดรังแคง่าย ลองใช้น้ำมันมะพร้าวผสมกับไข่ไก่ดูสิค่ะ วิธีการทำเพียงใช้น้ำมันมะพร้าว 2 ช้อนโต๊ะตั้งไฟอ่อนผสมกับไข่ไก่ 1 ฟอง (เอาเฉพาะไข่แดง) ตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นให้รอจนเย็นแล้วนำไปลูบให้ทั่วศีรษะ นวดด้วยปลายนิ้วให้ทั่วทั้งด้านหน้าจรดท้ายทอย โดยใช้ฝ่ามือขยำๆ ขยี้ๆ ให้ทั่วเพื่อให้ซึมเข้าสู่เส้นผม หลังจากนั้นใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กคลุมเอาไว้ หมักทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น แล้วสระด้วยแชมพูอ่อนๆ อีกครั้ง ทำเช่นนี้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง ผมจะนุ่มดูมีน้ำหนักและจัดทรงง่ายขึ้นค่ะ

แต่สำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นของไข่ไก่ให้ลองใช้สูตรน้ำมันมะกอกดูก็ได้ค่ะ เพียงนำน้ำมันมะกอกอุ่นๆ 2-3 ช้อนโต๊ะ นำมานวดหนังศีรษะหวีและชโลมเส้นผมให้ทั่ว ซึ่งวิธีการนวดให้นวดเป็นวงกลมเล็กๆ เมื่อนวดจนทั่วศีรษะแล้วให้ใช้ผ้าขนหนูพันศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที หลังจากนั้นให้สระด้วยแชมพูอ่อนๆ แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น วิธีนี้จะช่วยบำรุงเส้นผมให้กลับมามีสภาพดีได้เหมือนกันค่ะ

ต่อมาสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับรังแคบนศีรษะ เพราะเมื่อไรที่รังแคมาเยือนมักจะมีอาการคันตามมาเสมอ แถมยังสร้างความอับอายขายหน้าด้วยการออกมาโชว์ให้เห็นกันอยู่เสมอๆ ลองใช้สูตรน้ำมะนาว หรือ น้ำมะกรูด กันดูสิคะ วิธีการไม่ยากค่ะเพียงคั้นน้ำมะนาวหรือน้ำมะกรูดที่ผ่านการเผาไฟแล้ว มานวดหนังศีรษะหลังสระผมทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที ให้ล้างออก เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยลดเจ้ารังแคออกจากศีรษะได้แล้วละคะ

สำหรับคนที่มีผมอ่อนแอหลุดร่วงง่ายลองใช้ ขิง แก้ผมร่วงดูสิคะ เชื่อได้เลยว่าใช้แล้วปัญหา หัวล้าน จะไม่มาเยือนคุณแน่นอน วิธีการง่ายๆ เพียงนำเหง้าขิงสดมาเผาไฟ ทุบให้แตกผสมน้ำนำไปขยี้ให้ทั่วศีรษะ วันละ 2 ครั้ง ประมาณ 3 วัน หรือนำขิงแก่ 1 เหง้า ขนาดเท่าฝ่ามือมาตำให้ละเอียด ห่อด้วยผ้าขาวบางเป็นลูกประคบ วางบนหม้อประคบที่ต้มน้ำจนเดือด เมื่อลูกประคบร้อนนำไปประคบบริเวณผมร่วง ทำวันละ 2 ครั้ง 20-30 นาที 3-5 วัน จะเห็นผล

ส่วนคนที่มีเส้นผมหยิกหยักศกที่สำคัญยังพบอาการแห้งและฟู ยิ่งถ้าทั้งหยิกและหนาด้วยแล้วล่ะก็จะทำให้ศีรษะดูโต ฟูมากยิ่งขึ้น แต่ถ้ายังชอบผมทรงนี้อยู่ไม่อยากที่จะยืดให้ตรงแล้วละก็หมั่นบำรุงดูแลรักษาด้วยวิธีต่อไปนี้สิคะ นำน้ำกับน้ำมะนาวผสมกันให้เจือจางหลังจากนั้นนำมาชโลมผมหลังจากล้างผมน้ำสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว ทิ้งไว้ 5 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่น กรดในน้ำมะนาวจะช่วยให้ไฟเบอร์ในผมยึดเกาะกันได้แน่น ผมจะเรียบ-หวีง่ายยิ่งขึ้น ที่สำคัญจะทำให้ผมดูเงางามได้ค่ะ

ผมมันก็เป็นผมอีกแบบที่มักสร้างปัญหาตามมามากมายทั้งเป็นสะเก็ดรังแค หนังศีรษะคันง่าย การรักษาความสะอาดของเส้นผมจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะสามารถทำได้ แต่ทางที่ดีต้องบำรุงรักษาด้วยไข่ขาวผสมน้ำอุ่นดูสิคะ รับรองอาการมันจะลดลงและหมดไปในที่สุดค่ะ วิธีการคือ ใช้ไข่ขาว 1 ฟองกับน้ำอุ่น ½ แก้วตีให้เข้ากัน หลังจากนั้นนำไปราดลงบนผมเส้น ใช้มือนวดให้ทั่วศีรษะทิ้งไว้ประมาณ 8-10 นาที หลังจากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่นโดยไม่ต้องสระผมซ้ำ ทำอย่างนี้สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ผมจะค่อยๆ ปรับสภาพ และหายมันค่ะ

สำหรับคนผมแตกปลาย พบมากในคนที่ชอบทำสีผม การม้วนผมหรือการดัด ตัดซอยด้วยใบมีดโกน หรือในคนที่ต้องใช้ความร้อนกับผมบ่อยๆ หรือแม้กระทั่งใช้อุปกรณ์ตกแต่งทรงผมอย่างขาดความระมัดระวังก็ตาม วันนี้หมดกังวลได้เลยค่ะ แค่ใช้ไข่ไก่ผสมกับน้ำมันงาและน้ำผึ้ง โดยใช้ไข่ไก่ (เฉพาะไข่แดง) จำนวน 2 ฟอง ผสมกับน้ำมันงา 4 ช้อนโต๊ะ และน้ำผึ้ง 2 ช้อนชา ตีผสมให้เข้ากัน หลังจากนั้นใช้น้ำอุ่นราดให้ทั่วศีรษะ แล้วค่อยๆ นำส่วนผสมที่ทำไว้เทลงไปให้ทั่วศีรษะคลุมด้วยผ้าขนหนูชุบกับน้ำอุ่นหมักทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาที แล้วสระออกด้วยแชมพูอ่อนๆ อีกครั้ง แค่นี้ผมแตกปลายก็จะเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นแล้วละค่ะ

ผมทำสีก็เช่นกันค่ะต้องรักษาดูแลเป็นพิเศษเพราะเป็นสภาพผมที่อ่อนแอที่สุด นอกจากมีอาการแห้งกรอบภายในเส้นผมจะมีรูพรุนอยู่ทั่วไป ที่สำคัญยังเป็นต้นเหตุของปัญหาเส้นผมทั้งผมร่วง แห้ง เสีย หากไม่อยากให้เส้นผมมีอายุการใช้งานสั้นเกินไปลองนำสูตรการดูแลเส้นผมสูตรนี้ไปใช้ดู สูตรน้ำมะนาว วิธีการทำให้นำน้ำมะนาวจำนวน 2 ผลมาคั้นเอาแต่น้ำใส่บริเวณโคนผม ทิ้งไว้ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นให้เป่าผมจนแห้ง วิธีนี้จะช่วยให้สีผมที่ทำมาชัดขึ้นแถมยังบำรุงหนังศีรษะได้ด้วยค่ะ

แต่ทั้งนี้เพื่อให้เส้นผมอยู่กับเราไปนานๆ การเสริมสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเส้นผมจากภายในด้วยการเลือกกินอาหารที่ช่วยบำรุงเส้นผมก็จำเป็นเช่นกันค่ะ ซึ่งอาหารที่มีเบต้าแคโรทีนสูงอย่าง ฟักทอง มะละกอ ตำลึง หรือ
แครอท เหล่านี้จะช่วยให้ผมเงางามและมีน้ำหนักขึ้นได้ แต่ควรเสริมวิตามินซีและอี ธาตุสังกะสี ธาตุเหล็ก จากอาหารจำพวกข้าวไม่ขัดขาว ข้าวสาลี ไข่ ถั่ว นม ธัญพืช ผักผลไม้ และตับ เข้าไปด้วยจะทำให้ผมดูดียิ่งขึ้นได้ ที่สำคัญควรลดการดื่มน้ำอัดลมเพราะทำให้เลือดเป็นกรดและส่งผลให้เส้นผมสูญเสียแร่ธาตุไปในตัวได้คะ

รู้อย่างนี้แล้วหากต้องการมีผมสวยลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ดูนะค่ะแล้วคุณจะรู้ “ผมสวย” อยู่ใกล้มือคุณนิดเดียว....

สูตรและวิธีการทำแชมพูสระผม สมุนไพร

สูตรและวิธีการทำแชมพูสระผม สมุนไพร

หากคุณกำลังมีปัญหาเส้นผมบาง รากผมไม่แข็งแรง ผมหลุดร่วงง่าย เป็นรังแค คันศีรษะอยู่บ้างหรือเปล่า? แล้วคุณใช้แชมพูอะไรสระผม? คุณรู้ไหมว่าแชมพูสระผมที่คุณใช้อยู่นั้นเขาใช้อะไรเป็นส่วนผสมบ้าง แล้วที่เขาโฆษณาว่าเป็น"แชมพูสมุนไพร" หรือ "มีส่วนผสมที่สกัดจากธรรมชาติ" นั้น เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน? แล้วมันเหมาะสมกับคุณหรือเปล่า? ถ้าคุณตอบคำถามนี้ไม่ได้หรือไม่แน่ใจ อยากให้คุณอ่านบทความนี้และลองหาโอกาสมาเรียนรู้วิธีการทำแชมพูสมุนไพร สูตรที่เหมาะสมกับตัวเราเองกันดีกว่า เผื่อคุณจะได้คำตอบที่ดีกว่าเดิม

ก่อนอื่นควรทราบถึงคุณสมบัติของสมุนไพรที่มีสรรพคุณในการดูแลหรือบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ และเลือกใช้ให้เหมาะกับสภาพของเส้นผมและหนังศีรษะของตัวเราเอง ได้แก่

ผลมะกรูด น้ำจากผลมะกรูดจะมีฤทธิ์เป็นกรด ช่วยสลายไขมันและชะล้างสิ่งสกปรกที่เกาะบนเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี (แต่ไม่ควรใช้น้ำมะกรูดชะโลมบนเส้นผมโดยตรงเป็นประจำ เพราะจะทำให้ผมจะเปราะ ขาดง่าย เพราะน้ำมะกรูดเป็นกรดค่อนข้างมาก มีค่า pH ประมาณ 3.5)
ผิวมะกรูด น้ำมันจากเปลือกผลมะกรูดมีกลิ่นหอม และช่วยบำรุงให้เส้นผมเป็นเงางาม
ผลมะเฟือง น้ำจากผลมะเฟืองมีฤทธิ์เป็นกรด (ค่อนข้างมาก pH 2.5-3) ช่วยสลายไขมันและชะล้างสิ่งสกปรกที่เกาะบนเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี เมื่อนำมาผสมน้ำให้เจือจางลงใช้สระผมจะช่วยบรรเทาอาการคันศีรษะได้ดี (แต่ก็ไม่ควรใช้น้ำมะเฟืองชะโลมบนเส้นผมโดยตรงเป็นประจำเช่นกัน)
ผลมะคำดีควาย น้ำที่สกัดจากผลมะคำดีควาย จะมีคุณสมบัติช่วยลดรังแค รักษาอาการชันนะตุและหนังศีรษะที่เป็นเชื้อรา แต่การใช้ต้องระวังไม่ให้เข้าตา เพราะจะแสบมาก
ดอกอัญชัน น้ำที่สกัดจากดอกอัญชัน จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต เมื่อนำมาใช้หมักผม ก่อนสระ 15 นาที หรือใช้ผสมกับแชมพูสระผม เมื่อใช้เป็นประจำ จะช่วยทำให้รากผมแข็งแรงขึ้น เส้นผมไม่หลุดร่วงง่าย
ต้นตะไคร้ น้ำที่สกัดจากต้นตะไคร้เมื่อนำมาใช้หมักผมก่อนสระหรือใช้ผสมกับแชมพูสระผม เมื่อใช้เป็นประจำ จะช่วยบรรเทาอาการเส้นผมแตกปลาย ลดรังแคและบรรเทาอาการคันศีรษะ
ใบว่านหางจระเข้ เมื่อนำวุ้นใสๆ ที่ได้จากใบว่านหางจระเข้ มาใช้หมักผมก่อนสระหรือใช้ผสมกับแชมพูสระผม เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยให้ผมนุ่มสลวย หวีง่ายและช่วยรักษาแผลบนหนังศรีษะ
ต้นฟ้าทลายโจร น้ำที่สกัดจากต้นฟ้าทลายโจร (ใบ ต้น ฝัก) จะมีสารยับยังการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิด เมื่อนำมาใช้หมักผมก่อนสระหรือใช้ผสมกับแชมพูสระผม เมื่อใช้เป็นประจำจะช่วยลดอาการเส้นผมหลุดร่วงง่าย
นอกจากนี้แล้วในประเทศไทยยังมีสมุนไพรที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยมอีกหลายชนิดที่รอให้คุณได้ศึกษา เรียนรู้และเลือกใช้ให้เหมาะสม เอาล่ะเกริ่นนำมามากแล้ว มาลงมือทำแชมพูสมุนไพรสูตรตามใจคุณกันดีกว่า

►ส่วนผสมแชมพูสระผม สมุนไพร

แชมพูออย (EMAL 28CT) 500 กรัม
ผงฟอง (ช่วยให้ฟองมาก) 50 กรัม
ผงข้น (ช่วยให้น้ำยาสระผมข้นขึ้น) 125– 150 กรัม
ลาโนลิน (ช่วยให้เส้นผมลื่น) 50 กรัม
น้ำใบหมี่สด (น้ำสมุนไพรตามต้องการ) 1.5 กก. (หรือลิตร)
น้ำจุลินทรีย์ผลไม้เปรี้ยว 500 กรัม
เกลือ 500 กรัม
น้ำหอมกลิ่นตามชอบ ปริมาณเล็กน้อย
►วิธีทำแชมพูสระผม สมุนไพร

แบ่งน้ำใบหมี่สดปริมาณเล็กน้อยใส่ภาชนะ ตั้งไฟพอน้ำร้อน นำลาโนลินละลายในน้ำร้อน นำเกลือลงไปผสมและน้ำจุลินทรีย์ผลไม้เปรี้ยว คนให้ละลายเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วจึงพักเอาไว้
นำน้ำใบหมี่สดที่เหลือ ใส่ในภาชนะใบใหญ่ (ควรใช้ภาชนะพลาสติกหรือสแตนเลส)
ค่อยๆ ใส่ผงฟองลงในน้ำทีละน้อย พร้อมกับคนให้ผงฟองละลายจนหมด ใส่แชมพูออย คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
ค่อยๆ ใส่ผงข้นทีละน้อยคนให้ละลายเข้ากัน (ไม่ต้องถึง 150 กรัมก็ได้ ดูว่าน้ำยาข้นก็ใช้ได้ อย่าใช้เกิน น้ำยาจะเหลว) แล้วจึงใส่ลาโนลีนที่ละลายเตรียมไว้ในข้อ 1 คนให้ส่วนผสมเข้ากัน
ใส่กลิ่นตามที่ต้องการ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ฟองยุบตัวจึงกรอกใส่ในภาชนะ พร้อมใช้หรือจำหน่าย
►วิธีทำน้ำจุลินทรีย์ผลไม้เปรี้ยว
ใช้น้ำหมักผลไม้เปรี้ยวตามต้องการ เช่น มะกรูด มะนาว หรือมะเฟือง น้ำหนักรวม 3 กิโลกรัม ผสมคลุกกับน้ำตาลทราย 1 กิโลกรัม หมักทิ้งไว้ 3 เดือน แล้วจึงนำมากรองเอาเฉพาะน้ำจุลินทรีย์มาใช้

►ข้อควรทราบ

1. สมุนไพรที่นำมาใส่ในแชมพูสระผม มีหลายชนิด ควรศึกษาถึงคุณสมบัติของสมุนไพรแต่ละชนิดและเลือกใช้ให้เหมาะสมกับตนเอง ตัวอย่างเช่น

น้ำที่สกัดจากดอกอัญชัน จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต ทำให้รากผมแข็งแรง เมื่อใช้ได้สักระยะหนึ่งจะสังเกตเห็นว่ามีผมร่วงน้อยลงและมีผมใหม่ขึ้นมากกว่าเดิม เตรียมน้ำดอกอัญชันโดยนำหม้อใส่น้ำปริมาณไม่ต้องมากนัก ต้มน้ำให้เดือด แล้วนำกลีบดอกอัญชันใส่ลงในน้ำเดือด (ควรเลือกใช้ชนิดดอกสีน้ำเงิน) ใช้ทัพพีคนคลุกเคล้าไปมาจนเห็นดอกอัญชันสีซีดลงและน้ำต้มดอกอัญชันเป็นสีน้ำเงินเข้ม จึงกรองเฉพาะน้ำมาใช้ เมื่อผสมแล้วจะได้แชมพูสีม่วงสดใส แต่สีม่วง ในผลิตภัณฑ์นี้จะค่อยๆ สลายตัวไปทีละน้อยเนื่องจากเป็นสารธรรมชาติ สลายตัวได้ง่าย แต่สามารถยืดอายุด้วยการเก็บในตู้เย็น
น้ำที่สกัดจากผลมะคำดีควาย มีคุณสมบัติลดรังแค รักษาอาการชันนะตุและเชื้อราบนหนังศีรษะ เตรียมโดยใช้ผลมะคำดีควายแห้ง (หาซื้อได้ตามร้ายขายสมุนไพรหรือยาไทยแผนโบราณ) แช่น้ำให้นุ่ม ต้มให้เดือดและกรองเอาเฉพาะน้ำมาใช้
ว่านหางจระเข้ วุ้นใสๆ ที่ใบมีคุณสมบัติช่วยบำรุงผมให้นุ่มชุ่มชื้น เตรียมได้โดยปอกเปลือกใบว่านหางจระเข้ออกให้หมด แล้วล้างยางสีเหลืองให้หมด (ถ้าล้างยางไม่หมด ยางจะกัดผิวหนัง) นำวุ้นมาใส่โถปั่นให้ละเอียด
2. น้ำหมักชีวภาพที่นำมาทำแชมพูสระผม มีหลายชนิด เช่น มะกรูด มะนาว มะเฟือง ส้มป่อย เป็นต้น
3. หากต้องการให้แชมพูเก็บได้นาน ๆ ให้ใส่สารกันบูด 12 กรัม เพิ่มลงไปในส่วนผสมดังกล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555

ผอมยังไงไม่ให้กลับมาอ้วนอีก


 
   สาวๆ ที่กำลังอดอาหารอย่างผิดวิธี หรือบางทีอาจจะกังวลใจว่าสิ่งที่ทานเข้าไปได้สารอาหารครบหรือเปล่า เรามีวิธีทำให้สาวๆ ผอมได้อย่างถูกวิธีมาบอกกันค่ะ



สาวๆ ที่กังวลของน้ำหนัก วันนี้เรามีวิธีทำให้สาวๆ ผอมได้ สวยด้วย มาบอกกันค่ะ

1.ชั่งน้ำหนักทุกวัน จะช่วยให้ลดน้ำหนักได้ 12 ปอนด์ใน 2 ปี อันนี้เป็นผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยมินนิโซตา สหรัฐอเมริกา ส่วนผู้ที่ชั่งสัปดาห์ละครั้ง จะลดได้ครึ่งเดียวคือ 6 ปอนด์ (ใน 2 ปี) เหตุผลก็เพราะว่า การชั่งน้ำหนักจะทำให้เราทราบการเปลี่ยนแปลงของน้ำหนักและปรับพฤติกรรมการกิน

2.ห้ามดูทีวีเกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน ให้หากิจกรรมอื่นที่ได้เคลื่อนไหวร่างกายแทน

3.กินอาหารที่มีเส้นใย 4 กรัมในทุกมื้ออาหาร เหตุผลก็ คือ อาหารที่มีไฟเบอร์หรือเส้นใย จะทำให้ร่างกายดูดซึมแคลอรีช้าลงโดยที่เราไม่หิวหรือรู้สึกขาดแคลน

4.นอนให้เพียงพอ 7 ชั่วโมงต่อคืน ซึ่งเรื่องนี้เคยพูดกันมาหลายครั้งแล้วว่า การนอนไม่เพียงพอจะทำให้เราหิวกว่าปกติ เนื่องจากระดับฮอร์โมนในการควบคุมความหิวจะลดต่ำลง

5.ดื่มน้ำสะอาดวันละ 8 แก้ว ข้อนี้ทราบกันดีว่า น้ำนอกจากช่วยขับถ่ายของเสียแล้วยังทำให้ประสิทธิภาพการเผาผลาญอาหารดีขึ้นถึง 30%

6.อย่าทำงานเกิน 9 ชั่วโมง การนั่งทำงานเป็นเวลานาน นอกจากทำให้ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวแล้ว ยังก่อให้เกิดความเครียด ซึ่งไปส่งผลกระทบโดยตรงต่อฮอร์โมนในร่างกาย

สุดท้ายลดการกินอาหารประเภทแป้งขัดขาว น้ำตาลฟอกขาว เพราะจะทำให้น้ำตาลในกระแสเลือดพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและร่างกายดูดซึมได้เร็วและมาก


Credit : http://www.108health.com/108health/topic_detail.php?mtopic_id=2203&sub_id=9&ref_main_id=1

ผิวสวยใสครบสูตร 5 ขั้นตอนดูเเลผิวสวย

เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ผิวพรรณที่เคยเปล่งปลั่งต่างก็ร่วงโรยไปตามวัยดังนั้นผู้หญิงอย่างเราๆ ไม่ควรมองข้ามและละเลย ควรหมั่นดูแลผิวพรรณโดยเฉพาะใบหน้าให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ วีซ่าเลยขอนำเอา ขั้นตอนของการดูแลผิวสวยครบสูตร 5 ขั้นตอน มาฝากไว้ให้คุณผู้หญิงนำขั้นตอนเหล่านี้ไปใช้ดูแลผิวสวยใส ไร้สิวกันเลยค่ะ


1. เริ่มด้วยการอบไอน้ำผิวด้วยการทำความสะอาดผิว เป็นการเคลียร์ผิวหน้าใส้สะอาดหมดจดก่อนเข้านอน โดยการเอาหน้าไปอังกับน้ำร้อนเพื่อเป็นใช้ไอน้ำเข้าไปทำความสะอาดรูขุมขนช่วยขจัดสิ่งที่ตกค้างจากการล้างหน้าด้วยเจลล้างหน้าไม่สะอาดค่ะ เปิดรูขุมขนแล้วให้ไอน้ำได้เข้าไปขจัดสิ่งสกปรกที่ตกค้างอยู่ในนั้น ที่โฟมหรือเจลล้างหน้าอาจล้างไม่สะอาดค่ะ
 2. ใช้คลีนเซอร์ทำความสะอาด หลังจากที่เปิดรูขุมขนด้วยการอบไอน้ำผิวแล้ว ให้ใช้น้ำอุ่นล้างหน้าและลำคอ จากนั้นใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิวคุณผู้หญิง ล้างและนวดให้ทั่วไปหน้าประมาณ 40 วินาที โดยเว้นรอบดวงตาไว้ จากนั้นล้างให้สะอาดด้วยน้ำ รอบ
 3. ใช้โทนเนอร์ปรับสภาพผิว หลังจากล้างหน้าและอาบน้ำแล้ว ทันทีที่เช็ดหน้าให้แห้งแล้ว ให้ใช้โทนเนอร์เช็ดเพื่อปรับสภาพผิวบำรุงผิวขั้นต้นก่อนเพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนทาครีมบำรุงและมอยซ์เจอไรเซอร์บนใบหน้า
 4. ทามอยซ์เจอไรเซอร์ คุณผู้หญิงควรเลือกมอยซ์เจอไรเซอร์ที่เหมาะกับผิวโดยการใช้ทาให้ลงบนผิวหน้าให้ทั่วเป็นประจำทุกก่อนนอนทุกคืนเพื่อ เป็นการเติมน้ำให้ผิวหน้า ทำให้ผิวหน้าของคุณผู้หญิงนุ่มชุ่มชื้นอย่าสัมผัสได้เลยค่ะ
 5. ขัดผิวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยเลือกสครับขัดผิวกลิ่นที่คุณผู้หญิงชอบเพื่อขัดผิวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพื่อเป็นการผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดลอกออกไปและสร้างเซลล์ผิวใหม่ให้กับผิวหน้านั่นเองค่ะ ขั้นตอนเหล่านี้จะช่วยให้คุณผู้หญิงมีผิวหน้าที่สวยสดใสไร้สิวได้ค่ะ ดังนั้นควรหมั่นดูแลใส่ใจผิวหน้าด้วยการดูแลเป็นประจำสม่ำเสมอ รับรองผิวหน้าสวยใสจะอยู่คู่คุณผู้หญิงไปอีกนานทีเดียวค่ะ

Credit : http://www.ladyvisa.com/

พัฒนาการความสวยของสาว Linnsay Lohan!!

Credit : http://youtu.be/_0Mi5Q-ExZ8

คลิปวิดีโอการสอนเขียนคิ้วของเกาหลี

ถามกันเข้ามามากมายเหลือเกินกับวิธีการเขียนคิ้วแบบเกาหลีและความต้องการที่จะให้เรา เขียนคิ้วแบบเกาหลี รีวิว ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่าเอ็นทรีเคของจัดเต็มตามความต้องการและการเรียกร้องของคุณผู้หญิงในเรื่อง เขียนคิ้วแบบเกาหลี รีวิว อย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งการรีวิว การเขียนคิ้วแบบเกาหลี ในครั้งนี้เราจะมาพร้อมกับคลิปวีดีโอสอนการเขียนคิ้วแบบเกาหลีอีกเช่นเคยค่ะ จะเพื่ออะไรนะเหรอ…ก็เพื่อให้คุณผู้หญิงทุกท่านได้เรียนรู้ วิธีการเขียนคิ้วแบบเกาหลี แบบจะๆ กันเลยทีเดียวค่ะ และเพื่อการเรียนรู้ วิธีการเขียนคิ้วแบบเกาหลี พร้อมกับ เทคนิคการเขียนคิ้วแบบเกาหลี รวมถึง ขั้นตอนการเขียนคิ้วแบบเกาหลี ก็ได้ถูกบรรจุไว้ในคลิปวีดีโอการสอนเขียนคิ้วแบบเกาหลีในวันนี้กันเอาไว้แล้วค่ะ หากว่าคุณผู้หญิงชาวเอ็นทรีเคต้องการจะเรียนการเขียนคิ้วแบบเกาหลีแล้วล่ะก็…คุณพร้อมจะเข้าไปเรียนรู้พร้อมกับคลิปวีดีโอรีวิวการสอนวิธีการเขียนคิ้วแบบเกาหลีกันแล้วรึยังเอ่ย…ถ้าพร้อมแล้วก็มาดูและเรียนรู้เทคนิคและขั้นตอนการเขียนคิ้วแบบเกาหลีไปพร้อมกันได้เลยค่ะ
เป็นไงค่ะกับรีวิวเขียนคิ้วแบบเกาหลีและการสอนเขียนคิ้วแบบเกาหลีที่เรานำมาสอนกันในวันนี้ หวังว่าคงจะเป็นที่ถูกอกถูกใจคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านที่ได้เรียกร้องกันเข้ามากนะค่ะ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นเราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคลิปวีดีโอการสอนเขียนคิ้วแบบเกาหลีในวันนี้จะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้หญิงหลายๆ ท่านที่กำลังมองหาการเขียนคิ้วแบบเกาหลีและคนที่ยังเขียนคิ้วไม่เป็นอีกด้วย อนึ่งรวมถึงคุณผู้หญิงที่กำลังมองหาวิธีการเขียนคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติอีกด้วยค่ะ เพราะว่าคลิปวีดีโอที่เรานำมาสอนในวันนี้ก็ถือได้ว่าเป็นวิธีการเขียนคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติเอามากๆ อีกด้วยค่ะ ฉะนั้นก็อย่างพลาดและนำคลิปวีดีโอสอนการเขียนคิ้วแบบเกาหลีนี้ไปฝึกหัดกันให้ชำนาญนะค่ะ Credit : www.youtube.com

รอบรู้เรื่องเล็บ



เล็บคือ
เล็บก็ คือเซลล์ที่ตายแล้ว ที่จะประกอบไปด้วยโปรตีน คือ เคราติน ที่มันเหมือนกับเส้นผมของเรานั้นเอง ผมและเล็บของคนเรา จึงมีอะไรคล้ายๆกัน อย่างเช่น ไม่มีปลายประสาท จะตัดผม หรือตัดเล็บ ก็เลยไม่รู้สึกว่าเจ็บไงล่ะ

รู้ไหมว่า เล็บเรายาวแค่ไหน
เล็บของเรามีความยาวเฉลี่ย แล้วจะยาวขึ้นประมาณ 0.1 มิลลิเมตรต่อวัน แต่เล็บมือของเราจะยาวเร็วกว่าเล็บเท้าของเราถึง 2 เท่า เพราะว่าการที่เราขยับมือ จะหยิบจับอะไรบ่อยๆ ก็จะช่วยให้เล็บของเรายาวเร็วขึ้นอีกด้วย สภาพอากาศก็มีส่วนที่ทำให้เล็บยาวขึ้นด้วยนะ เพราะเล็บจะยาวเร็วกว่าในหน้าร้อนนี้ด้วย แต่ที่น่ารู้อีกอย่างหนึ่งก็คือ ผู้หญิงท้องจะมีผมที่สวยดกดำ และจะมีเล็บยาวเร็วกว่าปกติ กว่าตอนที่ไม่ได้ท้องนั้นเอง ผู้ใหญ่ที่มีอายุมากขึ้นเล็บก็จะแข็งแรงตามไปด้วย และเล็บก็จะยาวช้า กว่าในวัยเด็กอีกด้วยนะ


เมื่อเราทาเล็บ 
๐ ก่อนที่เราจะทำการทาเล็บ แล้วให้แช่มือในลงอ่างน้ำที่บีบมะนาวลงเอาไว้ หรือน้ำส้มไว้นิดหน่อยก็ได้ แช่เอาไว้สักพักหนึ่งจะช่วยให้เล็บของเรานิ่ม และมือนุ่ม เป็นการเตรียมพร้อมก่อนที่จะทำการทาเล็บ
๐ เวลาที่เราใช้น้ำยารองพื้นเล็บ เราจะทาเป็นชั้นแรก หรือ Base Coat ก็เป็นการดูแลเล็บที่ดีอีกด้วยนะ เพราะว่าเวลาเราทาเล็บที่ดีที่สุด เพราะว่าเวลาที่เราทาเล็บสีเข้มๆ อย่างเช่น แดงสด เล็บของเราก็มักจะเหลือง แต่ถ้าเรารองพื้นสีเล็บเอาไว้ก็จะช่วยได้ด้วย แต่ถ้าไม่มีน้ำยารองพื้นสีเล็บ เราอาจใช้ยาทาเล็บ ที่มีสีใสมาแทนกันได้เหมือนกัน
๐ เวลาที่เราป้ายสีทาเล็บ เราไม่ควรจะป้ายที่เล็บเกิน 3 ครั้ง วิธีการจะเริ่มจากตรงกลาง-ซ้าย-ขวา หรือจะ ขวา-กลาง-ซ้ายก็ได้ตามถนัด
๐ พยายามอย่าลงสีเล็บเกิน 2 ชั้น เพราะว่าจะทำให้เล็บแลดูหนาไป และดูไม่สวยอีกด้วย
๐ การใช้น้ำยาทาทับชั้นบน หรือ Top Coat ก็จะดี เพราะมันจะช่วยให้สีคงไว้ให้ซึ่งความสวยงาม และยังช้วยป้องกันสีจางจากแสงแดดได้อีกด้วยนะ
๐ ถ้าหากน้ำยาทาเล็บระเหยจนข้นเหนียว เราอาจจะเติมทินเนอร์หยดลงไปเล็กน้อย ก็สามารถใช้ทาต่อได้แล้วล่ะ
๐ เราควรเก็บน้ำยาทาเล็บไว้ในที่เย็น ให้จากพ้นแสงแดด และปิดฝาให้สนิทเพื่อช่วยกันการระเหย หรือจะเก็บในตู้เย็นก็ได้นะ
๐ การเลือกน้ำยาทาเล็บ เราก็ควรที่จะดูส่วนผสมของยาทาเล็บด้วย ยาล้างเล็บที่ดีควรไม่มี Acetone หรือที่เขียนว่า Acetone Free เจ้าอาซีโทนนี้ก็คือ แอลกอฮอล์ ตัวที่จะทำให้ผิวเล็บแห้ง และหักง่ายนั้นเอง
๐ เลือกน้ำยาล้างเล็บ ที่มีส่วนผสมของ Lemon หรือน้ำมะนาว ก็จะช่วยบำรุงพื้นผิวเล็บของเราด้วยนะ


วิธีการถนอมมือ และเล็บ
๐ การใส่ถุงมือ ในช่วงเวลาที่ทำสวน หรือเวลาจะต้องโดนน้ำเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะเมื่อยามทาเล็บ ถ้าจะให้ดีถุงมือควรจะมีแผ่นซับอยู่ภายใน เพราะถุงมือยาวทั่วไป เวลาใส่นานๆแล้วมือจะอับชื้น ขึ้นมาได้
๐ การหาโลชั่น ที่ใช้ทาเฉพาะสำหรับมือและเล็บ เพื่อมีประสิทธิภาพที่สูงกว่าการบำรุงโดยทั่วไป
๐ ถ้าเราอยากจะให้เล็บสั้นลงมาไม่มาก เราก็ควรจะตะไบเล็บแทนการที่จะตัดเล็บ
๐ การใช้แผ่นตะไบที่มีลักษณะเหมือนกระดาษทราย จะดีกว่าตะไบที่เป็นโลหะ
๐ เมื่อเราทาเล็บแล้ว ควรระวังการเปิดอาหารกระป๋องทุกอย่าง ให้ใช้เหรียญดันเปิดแทนการใช้เล็บของเราโดยตรง


อาหารที่ช่วยบำรุงเล็บ 
เพื่อให้เล็บของเราที่แข็งแรง และไม่เปราะ และหักได้ง่าย ดังนั้นเราจึงควรเลือกทานอาหารจำพวกปลาให้มากๆ อย่างเช่น ปลาแซลมอน ปลาหิมะ ปลาเฮอริง หรือปลากระป๋องที่เป็นปลาแมคเคอเรลก็ได้นะ อาหารที่มี Zinc สูง อย่างเช่น ธัญพืช ไข่แดง เนื้อสัตว์ และอาหารทะเล เป็นต้น

ทาสี อะไรเหมาะกับเล็บเรา
๐ คนที่มีเล็บกว้าง ปลายบาน เราควรหลีกเลี่ยง ที่จะทาสีเข้มๆ ประเภทแดงอมดำ หรือน้ำตาลช็อกโกแลต สีเหล่านี้ ไม่ได้ทำให้เล็บของเรามัรชนดูเรียวขึ้นเลย แต่จะทำให้เล็บของเรานั้นดูกว้างขึ้น เราควรที่จะทาสีหวานๆ และสดใสแทนดีกว่านะ

๐ คนที่มีเล็บเรียว และเว้าลึก คนที่มีเล็บแบบนี้ ถือว่าเป็นเล็บที่สวยตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่ก็ยังมีโทนสี ที่สามารถทำให้เล็บของเราสวยน้อยลงด้วย อย่างเช่น สีแวววาว เมทัลลิค เล็บของคุณจะดูสวยกว่า และน่ามองเมื่อทาสีออกด้านๆ แดงเลือดหมูก็ดูดีอีกด้วย

๐ คนที่มีเล็บสั้น และตื้น ถ้าไม่อยากให้เล็บของเรานั้น แลดูสั้นลงไปมากกว่านี้ เราไม่ควรที่จะทาสีสดๆ ประเภทโทนส้ม หรือแดง การทาสีใสๆ ก็ทำให้ดูใกล้เคียงสีธรรมชาติ ก็จะทำให้เล็บแลดูสวย และสะอาดตาน่ามองขึ้นมาด้วย

Credit : http://www.peterlab.com

แต่งคิ้วสวยได้ดั่งใจสั่ง


สาวๆ คนไหนที่มีปัญหาเรื่องคิ้ว ไม่รู้ว่าจะกันคิ้วให้ได้รูปอย่างไร หรือบางคนกันคิ้วมาแล้วพอขนคิ้วเริ่มยาวจะจัดการอย่างไร? ง่ายๆ ค่ะ  มีเคล็ดลับดีๆ มาฝากกัน

- ใช้แปรงลักษณะที่เป็นคล้ายๆ กับแปรงปัดมาสคาร่าแปรงขนคิ้วขึ้นด้านบน คุณจะเห็นได้ว่าขนคิ้วที่ยาวขึ้นจะโผล่เกิ้นออกมาจากบริเวณคิ้ว
- จากนั้นใช้กรรไกรตัดขนคิ้วที่ยาวเกินโผล่ออกมาให้ความยาวพอดีกับคิ้วเราค่ะ

- โกนหรือถอนขนคิ้วบริเวณปลายคิ้วออกให้ได้รูปทรง (ขั้นตอนนี้คุณสาวๆ สามารถกำหนดรูปทรงเองได้ตามความเหมาะสมของใบหน้าคุณค่ะ)

แต่หากว่าคุณสาวๆ ยังนึกไม่ออกว่าความยาวเท่าไหร่ จะโก่งขนาดไหน...จะเข้ากับใบหน้าของคุณ เทคนิคง่ายๆ แค่คุณสาวๆ เอาด้ามแปรงวางจากหางตามุม 45 องศา (ดังภาพ)ก็จะได้ความยาวของคิ้วที่พอดีกับหน้าคุณค่ะ

- เมื่อคิ้วได้รูปแล้วก็ทำการปัดคิ้วได้เลยค่ะ เคล็ดลับที่จะทำให้คุณมีคิ้วที่สวยนั้นก็คือสีคิ้วควรสีเดียวกับสีผมจะดูเป็นธรรมชาติมาที่สุด

อย่าลิมไปลองทำตามกันดูนะคะคุณสาวๆ จะได้สวยใสธรรมชาติจนหนุ่มๆ เหลียวหลังมอง...

Credit : http://women.sanook.com/948925/


6 สิ่งใหม่ๆ ที่บลัชออน ทำได้เพื่อคุณ

คุณอาจจะไม่เชื่อว่า 6 สิ่งที่เราจะนำมาบอกคุณนี้เป็นสิ่งที่บรัชออนสามารถทำได้...อยากรู้กันแล้วใช่ไหมค่ะมาดูไปพร้อมๆ กันเลย


1. ทาปาก เราไม่ได้พูดเล่นนะ ทาบลัชออนนั่นแหละลงบนเรียวปากของคุณ มันจะให้สีสันที่ดูเป็นธรรมชาติแบเดียวกับการใช้ Lip Stain นั่นแหละ เพียงแต่ต้องให้แน่ใจนะว่าผิวที่ริมฝีปากของคุณเรียบเนียมอย่างแท้จริง ด้วยการใช้แปรงนุ่ม ๆ หรือผ้าขนหนูขึ้นๆ ขัดเบาๆ ที่ริมฝีปากเพื่อกำจัดเซลล์ผิวแห้ง ๆ ให้เหลือแต่ผิวริมฝีปากที่เรียบเนียนจริง ๆ จากนั้นก็ทาลิปบาล์มลงไปเยอะ ๆ ใช้ทิชชูซับออก แล้วจึงใช้ปลายนิ้วแตะบลัชออนสีโปรดของคุณแต้มลงบนริมฝีปาก 
2 . จับคู่มันกับริมฝีปากสีสด ลืมไปได้เลยกับกฎที่บอกว่าอย่าทาปากสีสด พร้อมกับการปัดแก้มสีจัด ๆ พร้อมกัน เดี๋ยวนี้ การมีกฎก็คือการไม่มีกฎ เพียงแค่คุณต้องเกลี่ย สีสันบนพวงแก้มให้ดูเรียบเนียนที่สุด และควรทาปากให้เสร็จก่อน แล้วจึงค่อยปัดสีแก้มค่อย ๆ ปัดสีแก้มให้เข้มขึ้นตามความต้องการ แต่สำหรับลุคนี้ ปล่อยดวงตาให้ดูเรียบง่ายที่สุด แค่อายไลเนอร์เล็กน้อยกับปัดมาสคาร่า ก็พอแล้วนะ 
3. ทาเป็นรูปตัว C แทนการปัดบลัชออนลงบนจุดสูงสุดของกึ่งกลางแก้ม ลองค่อย ๆ ปัดบลัชออนลง บนพวงแก้ม แล้วปัดไล่ขึ้นไปจนถึงคิ้วเป็นรูปตัว C วิธีนี้ จะทำให้ใบหน้าคุณดูผ่องขึ้นกว่าเดิม เพียงแต่ต้องเลือกบลัชออนสีอ่อนจางและมีประกายเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้คุณดูเปล่งปลั่งแบบสุขภาพดี ระวังบลัชที่มีชิมเมอร์มากเกินไป ซึ่งจะทำให้ดูเว่อ เท่านั้น เพื่อให้คุณดูเปล่งปลั่งแบบสุขภาพดี
4. เลือกสีสด เหตุผลดี ๆ ที่ควรลองใช้บลัชสีสด ๆ กันซะบ้างก็คือ มันทำให้ผิวของเราดูมีชีวิตชีวาและไม่ซีดเซียว เพราะฉะนั้นอย่ากลัวบลัชออนที่ดูมีสีสันสดแรงเวลาอยู่ในตลับ แค่ทดลองทาดูเพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อสีของมันบางเบา คุณก็จะได้สีสดใสบนพวงแก้มโดยไม่ดูเหมือนตัวตลกแน่นอน เพราะเนื้อสีที่บางเบาทำให้มองทะลุลงไปเห็นผิวที่อยู่ข้างล่าง มันจึงดูเป็นธรรมชาติแต่ในแบบที่สดใสและมีชีวิตชีวากว่า เวลาทาบลัชให้ใช้แปรงกลมอันใหญ่ๆ แล้วค่อยๆ ปัดสีลงไปทีละน้อยคุณสามารถเพิ่มสีสันขึ้นไปเรื้อยๆ จนได้ระดับที่ต้องการถ้าใช้บลัชแบบครีม ก็ใช้ปลายนิ้วค่อย ๆ ทาลงบนกึ่งกลางพวงแก้มเป็นวงกลม ทาลงไปทีละน้อยแต่ทาหลายๆ ชั้นดีกว่าทาทีเดียวเยอะ ๆ 
5. เติมสีที่ใบหู บลัชออนไม่จำเป็นต้องอยู่บนพวงแก้มอย่างเดียว และสีสันก็ไม่ได้จำเป็นต้องหยุดอยู่แค่บนใบหน้า ลองใช้ทริกง่าย ๆ ต่อไปนี้ในการเติมความสดใสและตื่นตัวให้แก่ใบหน้า นั่นก็คือใช้บลัชออนแบบครีมสีชมพูกุหลาบหรือสีเบอร์รี่ทาลงบนติ่งหูของคุณ เกลี่ยให้ดูกลมกลืน แล้วใช้บลัชสีเดียวกันทาลงบนพวงแก้ม มันจะทำให้ใบหน้าของคุณดูสดใสยิ่งขึ้น 
 6. ชุ่มชื่น...ชุ่มฉ่ำ ใบหน้ามัน ๆ อาจดูไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่นัก แต่ใบหน้าที่ดูชุ่มชื้นและเปล่งปลั่งเป็นอีกเรื่องหนึ่ง และการทาบลัชออนก็สามารถเติมความชุ่มชื่นและชุ่มฉ่ำให้แก่ใบหน้าของคุณได้อีกแรง ด้วยความช่วยเหลือของมอยสเจอไรเซอร์เล็กน้อย เพียงแค่ผสมมันกับบลัชแบบครีม แล้วใช้แปรงรูปพัดทาลงบนพวงแก้ม ค่อย ๆ เริ่มจากจุดที่มีเนื้อมากที่สุดของแก้มแล้วเกลี่ยออกไปหาขมับ มอยสเจอไรเซอร์จะทำให้สีของบลัชเจือจางลง แต่ชุ่มฉ่ำขึ้น ผิวคุณจึงดูเปล่งปลั่งและสดใสมีชีวิตชีวาอย่างที่คนอื่นจับไม่ได้เลยว่าไปทำอะไรมา


Credit : http://women.sanook.com/946841/6

แต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลี "พร้อมคลิปวีดีโอสอนวิธีการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลี




วันนี้ชวนคุณผู้หญิงมาแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีกันค่ะ ซึ่งเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) เชื่อว่า แต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลี นี้คุณผู้หญิงหลายคนต้องชอบแน่ๆ ถ้าคุณคือสาวกของเทรนด์แฟชั่นเกาหลีแล้วล่ะก็ วิธีการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลี ที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) นำมาแนะนำกันในวันนี้คุณต้องรีบมาอัพเดทเทรนด์นี้กันแล้วค่ะ นอกจากจะให้คุณผู้หญิงได้ แต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลี แล้ว คุณผู้หญิงยังได้เรียนรู้เทคนิคการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีรวมถึงเรียนรู้ขั้นตอนการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีกันอย่างเน้นๆ เพราะว่า เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) มีคลิปวีดีโอสอนวิธีการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีมาด้วยนะซิค่ะ นั้นคุณผู้หญิงทั้งหลายพร้อมที่จะมาเรียนรู้วิธีการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีกันแล้วรึยังเอ่ย ถ้าพร้อมแล้วมาดูคลิปวีดีโอสอนวิธีการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีไปพร้อมๆ กับเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) กันเลยดีกว่าค่ะ รับรองว่าการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีในวันนี้มิอาจทำให้คุณต้องเทรนด์แต่งหน้าอย่างแน่นอนค่ะ

คลิปวีดีโอสอน แต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลี
เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะกับการเรียนรู้วิธีการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) นำฝาก เป็นที่ถูกอกถูกใจคอเกาหลีฟรีเวอร์กันแบบสุดๆ เลยใช่มะใช่ไหมจ๊ะ ครั้งหน้าเทรนด์แฟชั่นแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลียังมีให้คุณผู้หญิงชาวเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ได้อัพเดทเทรนด์แฟชั่นการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีกันอีกอย่างต่อเนื่อง ครั้งหน้าต้องไม่พลาดกับเทรนด์มาใหม่มาในสไตล์การแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีนะจ๊ะ สำหรับคลิปวีดีโอสอนวิธีการแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีที่เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) นำมาฝากในวันนี้นั้นก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะช่วยให้คุณผู้หญิงได้เรียนรู้วิธีการแต่งหน้าได้อย่างง่ายดายมากยิ่งขึ้นค่ะ เพราะเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) เชื่อว่าคุณผู้หญิงทุกท่านมีพรสวรรค์ทางด้านการแต่งหน้ากันอยู่แล้วใช่ไหมล่ะค่ะ ทั้งหน้าเทรนด์แฟชั่นแต่งหน้าสวยใสแบบเกาหลีจะมาในสไตล์ใดอย่างลืมติดตามความเคลื่อนไหวกันด้วยนะจ๊ะ รับรองว่าไม่ตกเทรนด์ แต่กลับอินเทรนด์มากๆ เลยละจ๊ะ Credit : http://www.n3k.in.th http://www.youtube.com/watch?v=wphUA2PGCq0&feature=player_embedded

ผิวหน้าสวยใสเต่งตึงได้ง่ายๆด้วยทับทิมสด


คุณผู้หญิงคนไหนที่อยากมีผิวหน้าสวยใสเต่งตึงห้ามพลาดเคล็ดลับที่เรานำมาฝากกัน  ซึ่งจะช่วยให้คุณผู้หญิงมีผิวหน้าที่เต่งตึง ไร้รอยตีนกา และรอยหมองคล้ำต่าง ๆ จากเคล็ดลับการบำรุงผิวด้วยทับทิมสด สูตรธรรมชาติ

             วิธีการทำได้โดย :
แค่คุณผู้หญิง ใช้น้ำทับทิมสด ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและยังช่วยป้องกันผิวจากการทำลายของรังสีอัลตราไวโอเลต ประมาณ 1 ช้อนชาทาลงที่ใบหน้าของคุณผู้หญิง แล้วทิ้งไว้ราวๆ 10 นาที จากนั้นให้ล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำแบบนี้เป็นประจำ สม่ำเสมอ รับรองว่าผิวหน้าของคุณผู้หญิงแล้วล้างออกด้วยน้ำเย็น ทำเป็นประจำ ผิวหน้ก็จะค่อย ๆ กระชับ เต่งตึงและยังดูอ่อนวัยอีกด้วยนะคะ

             รู้เคล็ดลับดีๆ อย่างนี้แล้ว อย่าลืมนำไปลองทำกันดูนะ

Credit : www.ladyvisa.com

มะนาวช่วยขจัดเล็บเหลือง



ลองนำมะนาวในตู้เย็นมาเป็นตัวช่วยแก้อาหารเล็บเหลืองของคุณผู้หญิงดูด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
เตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างเล็ก ๆ แช่เล็บเท้าหรือเล็บมือในอ่างประมาณ 2-3 นาที แล้วซับให้แห้ง ด้วยผ้าขนหนู จากนั้นนำมะนาวฝานครึ่งลูกมาถูให้ทั่วทั้งเล็บและนิ้ว ถูไปเรื่อยๆ จนทั่วกระทั่งน้ำจากมะนาวออกหมด แล้วใช้ถูกที่เล็บมือเล็บเท้าต่อไปเรื่อยๆ สักพัก ประมาณ 15 นาที แล้วล้างนำมือและเท้าไปล้างออกด้วยน้ำอุ่นผสมกับสบู่

จากนั้นให้คุณผู้หญิงใช้ผ้าขนหนูซับให้แห้ง แล้วอย่าลืมบำรุงเล็บมือและเล็บเท้าด้วยโลชั่นบำรุงเล็บมือและเล็บเท้า

คุณผู้หญิงสามารถใช้มะนาวนำมาถูเล็บทุกอาทิตย์ อาทิตย์ละหนึ่งครั้ง แต่ไม่ควรทำในช่วงที่เล็บหรือนิ้วมีบาดแผล เพราะจะทำให้เกิดการแสบจากฤทธิ์ของน้ำมะนาวได้ค่ะ หลังจากขัดเล็บด้วยมะนาวแล้ว คุณผู้หญิงควรทาครีมบำรุงที่เล็บตามหลังด้วย รับรองว่าหากทำวิธีนี้ประจำสม่ำเสมอ จะช่วยทำให้คุณผู้หญิง ซ่อมแซมเล็บและเป็นการฟื้นฟูให้เล็บเหลืองๆ กลับมามีสีชมพูสวยกระจ่างใสได้แบบเดิม แต่มีข้อควรปฏิบัติดังนี้คือ คุณผู้หญิงควรเว้นระยะทาเล็บไว้บ้างเพื่อให้เล็บได้ฟื้นฟูความแข็งแรงไปในตัวกันด้วย

Credit : www.ladyvisa.com

ขจัดรังแคง่ายๆ ด้วยมะนาว



สำหรับคุณผู้หญิงที่ผมมีรังแคและกำลังกังวลอยู่ เรามีวิธีกำจัดรังแคง่ายๆ ด้วยสูตรธรรมชาติที่คุณผู้หญิงเองก็ทำได้ง่ายๆ มาฝากกันค่ะ ทั้งยังช่วยขจัดปัญหารังแคให้หายไปอย่างไม่มากวนใจอีกต่อไปมาแนะนำค่ะ

สูตรง่ายๆ สามารถเริ่มได้ดังนี้ค่ะ
นำน้ำมะนาว 8 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำสะอาดครึ่งถ้วย แล้วคนให้เข้ากัน จากนั้นนำมานวดลงบนศรีษะและเส้นผมของคุณผู้หญิง โดยนวดอย่างเบามือเพื่อให้น้ำมะนาวที่ผสมไว้ซึมลงไปที่เส้นผม ซึ่งวิธีนี้จะช่วยขจัดรังแคและบำรุงเส้นผมของคุณผู้หญิงให้เงางาม เนื่องด้วยมะนาวจะช่วยขจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วบริเวณศรีษะให้หลุดออกปและช่วยต่อต้านแบคทีเรียที่จะมารังควานพร้อมคืนสมดุลให้กัยเส้นผมของคุณผู้หญิงอีกด้วย

Credit : www.ladyvisa.com

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

เคล็ดลับเกี่ยวกับ ลิปสติก (Lipstick Tip)




ความสวยความงามในตอนนี้ จะนำเสนอความรู้และเคล็ดลับเรื่อง การใช้ลิปสติก มาฝากเพราะปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ผู้หญิง กับ ลิปสติก เป็นของคู่กันเสมอ และไม่ว่าคุณสาวๆ จะแต่งหน้าหรือไม่ อย่างน้อยก็จะต้องทาลิปสติก เพื่อเพิ่มสีสันให้ริมฝีปากเสมอ
การเก็บลิปสติกในตู้เย็น จะช่วยให้อายุการใช้งานลิปสติกยาวนานขึ้นเมื่อเลือกซื้อ
การเลือกซื้อลิปสติก อย่าได้ลองลิปสติก กับริมฝีปากของคุณ เพราะอาจเกิดการแพ้และไม่สะอาดได้ ควรทดสอบสีด้วยหลังมือเท่านั้น
ใช้ดินสอเขียนขอบปาก (lip liner) ก่อนการทาลิปสติกทุกครั้ง โดยให้สีของดินสอเขียนขอบปากเข้มกว่าสีลิปสติก
ควรใช้พู่กันเกลี่ยลิปสติกทุกครั้งที่ทาลิปสติก เพราะจะช่วยให้เรียบเนียน ลิปสติกไม่ก่อเป็นก้อน
ภายหลังการทาลิปสติก มักมีสีของลิปสติกส่วนหนึ่งติดฟัน เพราะฉะนั้น ต้องตรวจสอบให้ดีและเช็ดออกให้เรียนร้อยก่อนออกจากบ้าน
การทาลิปกรอส ไม่เหมาะกับผู้หญิงที่อายุเยอะๆ แต่จะเหมาะกับลิปสติกเนื้อด้านมากกว่า
บางครั้ง สามารถใช้ลิปสติกสองสีหรือมากกว่า ผสมสีกัน จะได้เฉดสีใหม่ที่สวยงาม ช่วยประหยัดกว่าซื้อสีใหม่
ควรทาลิปกรอส หรือ ลิปมัน ก่อนทาลิปสติกสีสัน เพราะจะช่วยให้ลิปสติก ติดทนนานขึ้น
กรณีที่ ลิปสติกหัก อย่าเพิ่งทิ้ง แต่ให้ใช้ความร้อนอ่อนๆ จากไฟแช็ก ลนบริเวณรอยหัก แล้วนำอีกส่วนมาต่อ ก็จะสามารถให้งานได้ตามปกติ
หลีกเลี่ยงการใช้ลิปสติกสีส้ม หรือ เฉดสีน้ำตาล เพราะหากคุณลืมเช้คหลังทา หรือ เร่งรีบ สีของลิปสติกจะติดฟันเป็นสีเหลืองๆดูสกปรก
เมื่อลิปสติกใกล้หมด เหลือถึงฐาน อย่าเพิ่งทิ้ง ให้นำมาผสม กับ วาสลีน คุณจะได้ ลิปกรอสบำรุงริมฝีปาก สีอ่อนสวยไว้ทาในวันหยุดพักผ่อน
เพื่อป้องกันไม่ให้ลิปสติกติดขอบแก้วขณะกินน้ำ ให้คุณเลือกใช้หลอดดื่มน้ำแทน


Credit : http://www.siamhealthandbeauty.com/

"ลดหน้าท้อง" ให้เซ็กซี่ ฟิตเปรี๊ยะ



เมื่อพุงของคุณใหญ่ จนมีคนกล่าวหาว่าคุณ "ท้อง" ทั้งๆที่คุณยังไม่ได้แต่งงาน สักกะนิ๊ดน่ะเหรอ คงไม่มีใครปรารถนาให้มัน เป็นเช่นนั้นหรอก โดยเฉพาะผู้หญิงอยาก สวยเช่นคุณ …. พุงห้อย นอกจากจะทำให้ ความสวยเร้าใจ ของคุณหมด สิ้นไปแล้ว ยังทำให้ คุณเกิดอาการปวดเอว ปวดหลังตามมา เนื่องจากขี้เกียจ ออกกำลังกาย สัปดาห์นี้ เรามีท่าบริหารร่างกายที่จะทำให้รูปร่างของคุณแน่นกระชับ ฟิตเปรี๊ยะ คนขี้เกียจก็ทำได้ค่ะ เพราะมันเป็นท่านอนทั้งสิ้น โดยเริ่มจาก 1. นอนหงาย โดยยกหัวเข่าให้ตั้งชัน แล้วยกลำตัวท่อนบนขึ้นจากพื้น โดยวางมือลงบนขมับ หรือบนต้นขา สูดหายใจเข้าลึกๆ ก้มคอลง โน้มตัวไปข้างหน้าและก้มหน้าลงให้ต่ำที่สุด คล้ายกับท่าซิท-อัพ หายใจออกช้าๆ แล้วนับ 1-2 ค้างไว้ จากนั้นหันซ้าย-ขวา โดยก้ม หน้า และลำตัว ลงแบบเดิมสลับกัน แล้วกลับมาสู่ต่ำแหน่งเดิม ท่านี้จะทำให้คุณรู้สึกตึงที่ลำคอ ดังนั้นให้คุณเริ่มจากการก้มคอในระดับที่สบายๆก่อน ในกรณีที่ คุณก้มคอไม่ลง ท่านี้ช่วยในการบริหาร กล้ามเนื้อคอให้มี ความยืดหยุ่น ลดหน้าท้อง และทำให้กล้ามเนื้อหน้าท้อง แข็งแรงค่ะ 2. นอนคว่ำ วางข้อศอกให้ตั้งฉากกับลำตัว จากนั้นให้คุณยกลำตัวขึ้น โดยใช้ปลายเท้ายันพื้น คล้ายกับ ท่าวิดพื้น แต่แทนที่จะเป็นการ ใช้มือยันแขนขึ้น ให้คุณใช้ข้อศอกค้ำลำตัวไว้ ยกค้างไว้ 5-10 วินาที แล้วลดลำตัวลง จากนั้นเริ่มใหม่ค่ะ 3. นอนหงาย วางแขนลงกับพื้น ให้ห่างออกจากลำตัวเล็กน้อย ให้อยู่ในท่าที่สบาย จากนั้นให้ยกขาทั้งสองข้างขึ้นให้ได้ฉาก จนรู้สึกตึงขา และหน้าท้อง ยกค้างไว้ 5 วินาที แล้วเอาลง จากนั้นทำใหม่ แล้วยกค้างไว้ 10 วินาที ทำเช่นนี้โดยให้เพิ่มเวลาขึ้นครั้งละ 5 วินาที จนครบ 90 วินาที ค่ะ เมื่อคุณทำท่านี้จนชำนาญ ให้คุณพยายามเหยียดขา ข้างหนึ่ง ให้มากๆ โดยพยายามให้ส้นเท้า ข้างที่เหยียดตึง ขึ้นไปตั้งอยู่บน ปลายเท้า ของขาอีกข้างหนึ่ง แล้วทิ้งค้างไว้จนคุณเมื่อย แล้วให้เปลี่ยนทำอีกข้างหนึ่งค่ะ 4. นอนหงาย วางแขนราบข้างลำตัว โดยให้แขนเท้า ลำตัวไว้ และยก หลังขึ้นให้ได้สูงที่สุด จนคุณรู้สึกเกร็งที่หลัง และหน้าท้อง จากนั้น ไขว้ข้อเท้า ระวังอย่าให้ลำตัวเอียงไปเอียงมา ยกค้างไว้ 10-15 วินาที เอาลง แล้วเริ่มใหม่โดยไขว้เท้าสลับกันค่ะ ท่านี้ลดอาการ ปวดเมื่อยตามหลัง และลำตัวได้ดี กล้ามเนื้อที่หน้าท้องที่สำคัญมีอยู่ 3 ส่วน ได้แก่ กล้ามเนื้อชั้นล่างสุด ทำหน้าที่เหมือนเป็นตัวพยุงร่างกายของคุณไว้ ส่วนที่สอง ชั้นกลาง ช่วยในการยืดหยุ่นร่างกายเวลาที่คุณหันตัวจากซ้ายไปขวา หรือ ขวาไปซ้าย หรือบิดตัว เอี้ยวตัว ส่วนที่สาม ชั้นบนสุดเป็น กล้ามเนื้อ ที่เป็นมัดๆ ดังนั้นเวลาบริหารร่างกายคุณควร บริหาร กล้ามเนื้อ ทั้งสามส่วนนี้ค่ะ จำไว้ว่า การบริหารที่ดี ในการลดหน้าท้องนั้น ควรเป็นการ บริหาร ที่มีการขยับเขยื้อนส่วนล่างของร่างกาย ดังนั้นจึงไม่ ควรเลือก ท่าบริหาร ที่ทำให้เท้าของคุณต้องตรึงแน่น อยู่กับ พื้นเฉยๆ และขอให้คุณบริหารเป็นประจำทุกวัน อาจจะช่วง ก่อนนอน หรือตื่นเช้าก่อนทำกิจกรรมอื่นใดก็ได้ค่ะ รับรองว่า จะไม่มีใคร กล่าวหาว่าคุณ "ท้อง" อีกเป็นแน่


Credit : http://www.changeslim.com/detail.php?id=328

วิธีการสอนแต่งหน้า เพื่อให้สวย เริ่ด ^^

Credit : http://www.youtube.com/watch?v=tEdxHgCoXss&feature=player_embedded#!

พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ



พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ นั้นเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณผู้หญิงอย่างเราและคนรักผิวสวยต้องควรรู้อย่างยิ่งค่ะ และวันนี้เอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) ก็มีเรื่อง พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ มาฝากเป็นความรู้ให้กับคุณผู้หญิงกันอีกเช่นเคยค่ะ นอกจากผิวพรรณที่สวย สดใส แล้วเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) เชื่อว่า คุณผู้หญิงหลายท่านคงจะอยากให้ผิวของคุณมีออร่ากับเค้าด้วยเหมือนกันใช่ไหมล่ะค่ะ พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญทีเดียวที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการมีผิวสวยสุขภาพดีให้กับคุณได้ ฉะนั้นตามเอ็นทรีเคดอทไอเอ็นดอททีเอช (N3K.IN.TH) มาดูเรื่อง พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ กันเลยดีกว่าค่ะ

หากเราไม่สามารถดูแลผิวพรรณด้วยหลักการขั้นพื้นฐานได้เป็นประจำการทำทรีทเม้นท์เพื่อชะลอวัยผิวก็จะไม่เป็นผล นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่า ริ้วรอยทั้งหลายที่ปรากฏบนใบหน้าส่วนใหญ่เป็นผลพวงจากปัจจัยภายนอกร่างกายมากกว่าเกิดจากการแก่ชราของร่างกายตามอายุที่มากขึ้น ดังนั้นวิธีเริ่มต้นดูแลผิวพรรณที่ง่ายที่สุด ถูกที่สุด และมีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การพยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวหนังทั่วร่างกายถูกทำลายไม่ว่าจะโดยปัจจัยใดๆ ก็ตาม มิฉะนั้นแล้วครีมบำรุงผิวและอาหารเสริมทั้งหลายที่ใช้ก็จะไม่เกิดประโยชน์ 

การที่ผิวหนังถูกทำลายโดยปัจจัยต่างๆ บางครั้งเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็น เพราะอาจไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ หรืออาจไม่มีอาการระคายเคืองหรืออักเสบด้วยซ้ำไป แต่อาจเป็นการสะสมความเสียหายไว้ทีละน้อยในระดับที่เราไม่ทันได้สังเกตเห็นและจะเห็นได้เมื่อผิวหนังสะสมความเสียหายมากถึงระดับที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าคือ ความเสื่อมโทรมอย่างชัดเจน เช่น ริ้วรอยเหี่ยวย่น เมื่อถึงเวลานั้น ก็แก้ไขยากแล้ว





3 พื้นฐานการดูแลผิวพรรณ และ หลีกเลี่ยงปัจจัยทำลายผิวพรรณ

1. รังสียูวีจากแสงอาทิตย์

มีผลโดยตรงทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่นและเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งผิวหนัง เราจึงควรหลีกเลี่ยงแสงแดดให้มากที่สุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนเช้าถึงบ่าย 2 โมง ซึ่งเป็นช่วงที่แสงอาทิตย์จะแผ่รังสียูวีทั้งเอและบีสูงที่สุด ครีมกันแดดที่มีสารป้องกันรังสีทั้งสองชนิดจะดีที่สุด นอกจากนั้นควรจะสวมเสื้อผ้าที่สามารถปกป้องผิวหนังได้เป็นดีที่สุด

2. ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่รุนแรง

เช่น สารทำความสะอาดที่เป็นองค์ประกอบของน้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก น้ำยาถูพื้น น้ำยาล้างรถ รวมทั้งน้ำยาสระผม สบู่เหลวล้างหน้า-อาบน้ำ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักจะมีสารทำความสะอาดที่ให้ฟองมากมาย สารทำความสะอาดชนิดนี้มักจะเกาะติดผิวหนังและสะสมบนผิวหนัง เพราะล้างออกยาก เนื่องจากมีประจุไฟฟ้าเป็นลบ จึงเกาะติดกับผิวหนังได้ง่ายและหลุดออกยาก เมื่อสะสมมากๆ เข้า จะทำให้ผิวหนังหยาบ แห้งกร้าน สังเกตได้ชัดเจนจากแม่บ้านหรือผู้ที่ต้องซักผ้าหรือล้างจานจำนวนมากเป็นประจำ ผิวหนังที่มือจะระคายเคือง อักเสบ และเหี่ยวย่น

3. คลอรีนและน้ำอุ่น

การอาบน้ำอุ่น ช่วยให้ร่างกายตื่นและสดชื่นอย่างรวดเร็ว แต่ความร้อนของน้ำ ยิ่งร้อนก็จะยิ่งทวีความรุนแรงในการทำลายเซลล์ผิวหนังให้มากขึ้น แม้ว่ากล้ามเนื้อได้ผ่อนคลาย แต่ความร้อนจะเร่งการเผาผลาญและเร่งปฏิกิริยาของอนุมูลอิสระให้เกิดมากขึ้นและเร็วขึ้น เช่นเดียวกับน้ำคลอรีน ดังนั้นผู้ที่ชื่นชอบการอาบน้ำอุ่น อาจจะลดจำนวนครั้งในการอาบน้ำอุ่นให้ลดน้อยลงในแต่ละสัปดาห์ เพื่อยืดอายุผิวพรรณให้สวยยาวนาน


Credit :  http://www.n3k.in.th

น่องโตทําไงดี? "วิธีการลดน่อง" อยู่นี้แล้ว!!

สาวเอเชียอย่างสาวไทยมักประสบปัญหาน่องโตและทู่ ซึ่งน่องโตอาจเกิดจากไขมันหรือกล้ามเนื้อก็ได้ กรณีที่เกิดจากกล้ามเนื้อส่วนใหญ่จะพบว่าส่วนบนของน่องใหญ่หรือบางคนอาจเกิดจากกล้ามเนื้อและไขมันร่วมด้วย ส่วนน่องโตที่เกิดจากไขมัน จะสังเกตุได้ว่า น่องทู่และด้านล่างเหนือข้อเท้าดูอวบอ้วน



เหลาน่อง มีหลายวิธีในการปราบน่องให้เรียวขึ้น

- ฉีดสาร Botulinum toxin
โดยการฉีดเข้าไปที่กล้ามเนื้อน่องซึ่งมีสองมัดใหญ่ๆ ข้อดีคือ ไม่มีแผลผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นในโรงพยาบาล ไม่ต้องเสี่ยงกับแผลเป็น แต่ต้องฉีดใหม่ทุก 4-8 เดือน

- ตัดกล้ามเนื้อ 
เป็นวิธีดั้งเดิมที่สามารถลดน่องได้ถาวร วิธีนี้ต้องเปิดแผลเพื่อเลาะใต้ผิวหนังให้เป็นโพรงแล้วตัดกล้ามเนื้อออก แต่มีความเสี่ยงในการทำให้น่องสองข้างไม่เท่ากัน บุ๋มเกินไป มีการติดเชื้อ เลือดออกและเลือดคั่งมาก และยังเสี่ยงกับแผลเป็นและแผลคีลอยด์อีกด้วย

- ตัดเส้นประสาท
เป็นวิธีที่ต้องเปิดแผลตรงข้อพับเล็กๆ แล้วตัดเส้นประสาทที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหนึ่งมัด ทำให้กล้ามเนื้อทั้งหนึ่งมัดฝ่อลง ข้อเสียคือ มีแผลเป็น การทำผ่าตัดค่อนข้างยาก

- ดูดไขมัน เช่น Vaser Liposelection 
ซึ่งมีข้อดีคือ เสียเลือดน้อย เนื้อเยื่อบอบช้ำไม่มาก ไม่เจ็บปวด เนื้อเยื่อข้างเคียงบาดเจ็บน้อย ขจัดไขมันส่วนเกินได้ในครั้งเดียว ข้อเสียคือ ลดได้เฉพาะส่วนที่เป็นไขมันเท่านั้น หรืออีกวิธีหนึ่งที่น่าสนใจคือ Radiofrequency Energy (คลื่นพลังงานวิทยุ) ที่สามารถนำมาใช้กับกล้ามเนื้อน่องเพื่อลดขนาดหรือปรับเปลี่ยนรูปทรงของน่อง ไม่มีแผลผ่าตัดและไม่มีแผลเป็นทำครั้งเดียวอยู่ได้นานโดยขึ้นอยู่กับขนาดกล้ามเนื้อของผู้ป่วย

ท่าบริหารลดน่อง

ถ้าน่องใหญ่จากไขมัน การออกกำลังกายอาจช่วยให้น่องเรียวลง เช่น ว่ายน้ำ จ้อกกิ้ง พิลาติส โยคะ คือควรออกกำลังที่มีการเกร็งและยืดเหยียดด้วย ในช่วงแรกที่ออกกำลังอาจดูว่าน่องใหญ่ขึ้นเนื่องจากกล้ามเนื้อขยายขนาดแต่เมื่อออกกำลังไปเรื่อยๆ จะทำให้น่องลดลงและกระชับขึ้น ที่สำคัญคือ ต้องยืดเหยียดกล้ามเนื้อน่องควบคู่ไปด้วยจึงจะได้ผล


อาบน้ำนมผสมน้ำมันมะกอกเพื่อผิวสวย( Milk and Olive oilBath Recipe For a Beautiful Skin



ที่เขาว่ากันว่า คนมีสตางค์เท่านั้น ถึงจะมีผิวเนียนสวย เต่งตึงดูอ่อนเยาว์ไปได้ตลอดกาล  ก็เพราะมีทุนหนาพอในการไปอาบน้ำแร่แช่น้ำนมอยู่เป็นประจำ จริงๆ แล้วการอาบน้ำนมไม่จำเป็นต้องไปในสปาสุดหรูเท่านั้นคุณสามารถบำรุงผิวด้วยการอาบน้ำนม โดยการทำน้ำนมอาบเองที่ บ้านอย่างง่ายๆ และประหยัด พร้อมได้ผลที่เหมือนกันอีกด้วย เพียงใส่นมผงลงไปในอ่างที่คุณเปิดน้ำอุ่นทิ้งไว้ จากนั้นก็เพิ่มอาหารผิวด้วยการหยดน้ำมันมะกอก หรือเบบี้ออยล์ลงไปผสมด้วยสักเล็กน้อย เท่านี้คุณก็ได้อาบน้ำนมบำรุงผิวแล้ว


Credit :  http://nuuboom.blogspot.com/

เคล็ดลับ หุ่นเฟิร์ม กระชับทุกสัดส่วน


วันนี้เราจะมาเผยเคล็ดลับหุ่นเฟิร์มกระชับทุกสัดส่วนและ ที่สำคัญนะค่ะไม่ใช่คุณจะมี หุ่นเฟิร์ม กระชับทุกสัดส่วนเท่านั้นนะ แต่เคล็ดลับ หุ่นเฟิร์ม นี้ยังเป็นวิธีที่ง่าย ๆ อีกด้วยค่ะ เพียงแค่คุณใช้เวลาตอนอยู่หน้าทีวีก็ยังได้เลยค่ะ ลองหันมาหุ่นเฟิร์มกันตอนอยู่หน้าทีวีนอกจากจะได้หุ่นเฟิร์มกระชับทุกสัด ส่วนยังได้ลดน้ำหนักแถมหุ่นยังดีอีกต่างหากใครไม่ทำเป็นไม่ได้เลยจริงไหมค่ะ กับเคล็ดลับนี้


ดีกว่าจะมัวมานั่งดูทีวีแบบเฉย ๆ และหยิบนั่นกินนี่อย่างนี้มีแต่อ้วนออกอ้วนออกนะค่ะ รองใช้เคล็ดลับ หุ่นเฟิร์ม กระชับทุกสัดส่วนนี้ดูค่ะนอกจากคุณจะเพลินไปกับการดูทีวีแล้วยังได้ออกกำลัง กายอย่างสนุกสนานและเพลินไปพร้อม ๆ กับการดูทีวีอีกต่างหากค่ะ
หุ่นเฟิร์ม กระชับทุกสัดส่วน
- วิธีลดแขน
ในท่ายืน ก้มตัวลง วางมือข้างหนึ่งลงบนเก้าอี้ ถือขวดน้ำหรือดัมเบลเอาไว้ในมืออีกข้างหนึ่ง งอข้อศอกทำมุม 90 องศา จากนั้นยืดแขนข้างที่ถือขวดน้ำขึ้นไปข้างหลังตรง ๆ หยุด แล้วกลับสู่ท่าเริ่ม ทำซ้ำข้างละสองเซ็ต เซ็ตละ 15 ครั้ง
- วิธีลดก้น
คุกเข่า จากนั้น ก้มตัวลงเท้าข้อศอกลงบนพื้น ศีรษะก้มลงเกือบแตะพื้น เตะขาข้างหนึ่งขึ้นไปข้างหลังสูง ๆ จากนั้นลดขาลง ทำซ้ำ 20 ครั้ง ก่อนจะเปลี่ยนข้าง
- วิธีลดหน้าท้อง
นอนหงายวางแขนไขว้กันไว้ใต้ศีรษะชันเข่าขึ้นทั้งสองข้างเท้าวางราบกับ พื้น จากนั้นค่อย ๆ ยกศีรษะและอกขึ้นจากพื้นพร้อมกับเหยียดขาข้างหนึ่งขึ้นข้างบนค้างไว้ครู่ หนึ่งก่อนกลับสู่ท่าเริ่ม จากนั้นทำซ้ำแต่เปลี่ยนเป็นยกขาอีกข้างหนึ่งพยายามยกขาแต่ละข้างให้ได้ 6 ครั้ง และค่อย ๆ เพิ่มเป็น 10 ครั้ง